อาการ ‘พังข้าวต้ม’ ดีขึ้นต่อเนื่อง ทีมสัตวแพทย์ดูแลใกล้ชิด

อาการลูกช้างป่า “พังข้าวต้ม” ดีขึ้นต่อเนื่อง กินได้มากขึ้น ร่าเริงกว่าเดิม ทีมสัตวแพทย์บึงฉวากดูแลใกล้ชิด 24 ชั่วโมง พร้อมเผยแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น
ลูกช้างป่าเพศเมีย “พังข้าวต้ม” มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก รายงานว่าเจ้าตัวน้อยเริ่ม กินนมและน้ำได้เพิ่มขึ้น พร้อมมี พฤติกรรมร่าเริง และสนใจสิ่งรอบตัวมากกว่าเดิม นับเป็นสัญญาณฟื้นตัวที่น่ายินดี
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ทีมดูแลเปิดเผยว่า แม้ปริมาณการกินนมและน้ำข้าวต้มของลูกช้างยังไม่ถึงเป้าตามที่คำนวณไว้ แต่สามารถขับถ่ายปัสสาวะได้ปกติ ส่วนอุจจาระยังมีลักษณะเหลวปนครีมเล็กน้อย ซึ่งยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก พร้อมสัตวแพทย์กานต์พิชชา หาญอาษา จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ระบุว่า ในช่วงเช้าเวลา 06.00 น. พบว่า “ข้าวต้ม” มี ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติ ทีมจึงเร่งให้สารน้ำทางหลอดเลือดเพื่อพยุงร่างกาย พร้อมให้ยาและวิตามินบำรุงต่าง ๆ รวมถึง ยารักษาแผลในระบบทางเดินอาหาร และ ยาบำรุงตับ ตามอาการ
ในด้านการดูแลบาดแผล เจ้าหน้าที่ได้ทำความสะอาด พ่นยา ทายา ใช้สมุนไพรขมิ้นพอก และ เลเซอร์รักษาแผลกดทับ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการลุกลามและช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็วขึ้น
ข่าวดีคือ “ข้าวต้ม” เริ่มมีกำลังมากขึ้น สนใจพี่เลี้ยง และมีการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ทีมสัตวแพทย์จึงประเมินว่าสัญญาณฟื้นตัวครั้งนี้เป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ยังต้องติดตามอาการแบบวันต่อวัน
ขอบคุณทีมสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ทุ่มเทดูแลลูกช้างป่าอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมขอบคุณประชาชนที่ส่งกำลังใจให้ “ข้าวต้ม” อย่างต่อเนื่อง



















