ทีมสัตวแพทย์รายงานอาการ “พังข้าวต้ม” ดีขึ้น แต่ยังต้องเฝ้า

ทีมสัตวแพทย์บึงฉวากดูแล “ข้าวต้ม” ลูกช้างป่า 24 ชม. อาการดีขึ้นแต่ยังมีท้องเสีย ต้องติดตามระบบทางเดินอาหารอย่างใกล้ชิด
ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวากยังคงทุ่มเทดูแล “ข้าวต้ม ลูกช้างป่า” แบบ 24 ชั่วโมงไม่หยุด หลังพบว่าสุขภาพเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น แม้ยังมีภาวะท้องเสียต่อเนื่องที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
สัตวแพทย์หญิงณฐนน ปานเพ็ชร และนายสัตวแพทย์วิศรุต ปิยะศิริศิลป์ เปิดเผยว่า พังข้าวต้มยังมีอุจจาระเหลวปนเนื้อครีมและเยื่อเมือกจากลำไส้ลอกหลุดในบางช่วง แม้จะกินนมและน้ำข้าวต้มได้ แต่ ปริมาณยังน้อยกว่าที่ประเมิน จึงต้องติดตามสภาพร่างกายวันต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ทีมงานเผยว่าพังข้าวต้มเริ่มมีพฤติกรรมร่าเริง สนใจพี่เลี้ยงและสิ่งรอบตัวมากขึ้น อีกทั้งระดับน้ำตาลในเลือดยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ถือเป็นสัญญาณบวกที่ช่วยสร้างกำลังใจให้ทีมสัตวแพทย์อย่างมาก
การรักษาครั้งนี้ใช้มาตรการดูแลแบบรอบด้าน ทั้งการให้สารน้ำทางหลอดเลือด การให้ยาปฏิชีวนะ ยารักษาแผลในระบบทางเดินอาหาร วิตามินบำรุงร่างกาย ยาบำรุงตับ และยาแก้ปวดเกร็งท้อง นอกจากนี้ ยังมีการดูแล แผลกดทับ ด้วยการทำความสะอาด พ่นยา ทายา พอกสมุนไพรขมิ้น และใช้ เลเซอร์รักษาแผล เพื่อช่วยเร่งการฟื้นตัว
การดูแลยังได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญหลายหน่วยงาน ทั้งคณะสัตวแพทยศาสตร์ มทร.ตะวันออก และทีมจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ช่วยตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเลือดและอุจจาระ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างแม่นยำ
ทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าผลัดเปลี่ยนเวรดูแลตลอดทั้งวัน โดยยังคงกังวลต่อปัญหาระบบทางเดินอาหารและปริมาณการกินนมที่ไม่ถึงเกณฑ์ แม้พฤติกรรมภาพรวมเริ่มดีขึ้น
การทุ่มเทดูแลลูกช้างป่าครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ไทย ในการช่วยเหลือสัตว์ป่า และเป็นตัวอย่างสำคัญของการทำงานร่วมกันหลายฝ่ายเพื่อฟื้นฟูชีวิตสัตว์ป่าที่มีคุณค่าในผืนป่าของประเทศ
ที่มา : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ทีมสัตวแพทย์รายงานอาการ “พังข้าวต้ม” ดีขึ้น แต่ยังต้องเฝ้า

อุตุฯ รายงานใต้ตอนล่างฝนหนักต่อเนื่อง คลื่นลมแรงถึง 25 พ.ย.

5 สิ่งของห้ามวางใกล้เตียงนอน บางชิ้นทำสุขภาพทรุดแบบเงียบ ๆ

ถกสนั่น เลี้ยงแมวเสี่ยงโรคจิตเภทเพิ่ม 2 เท่า สาเหตุจากเชื้อปรสิต
















