อัจฉริยะ ร้อง DSI สอบอธิบดีกรมปศุสัตว์-น้อง อดีต รมว. สวมสิทธิ์ส่งออกตีนไก่

24 ตุลาคม 2566

อัจฉริยะ ร้องดีเอสไอ ดำเนินคดีอธิบดีกรมปศุสัตว์ ร่วมกับน้องชายอดีตรัฐมนตรี สวมสิทธิ์ลักลอบส่งออกตีนไก่ สำแดงเอกสารเท็จและตราปลอม เสียหายนับพันล้านบาท

จากกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อร้องขอให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับคดีข้าราชการระดับสูงของกรมปศุสัตว์ ที่ไปเกี่ยวข้องกับการสวมสิทธิ์การลักลอบส่งออกตีนไก่ไปยังประเทศจีนผ่านท่าเรือแหลมฉบัง โดยสำแดงเอกสารเท็จและตราปลอมและมีการทำกันเป็นขบวนการใหญ่มูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท โดยนายอัจฉริยะเปิดเผยว่า

ฉริยะ ร้อง DSI สอบอธิบดีกรมปศุสัตว์-น้อง อดีต รมว. สวมสิทธิ์ส่งออกตีนไก่

  ที่มาร้องในวันนี้ เนื่องจากมีนายทุน เข้ามาสวมสิทธิ์ส่งออกตีนไก่ไปยังประเทศจีน ด้วยการสำแดงเท็จ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับของกรมปศุสัตว์อยู่เบื้องหลังในการส่งออกครั้งนี้ ทำให้ประเทศจีนตีกลับมาที่ประเทศไทย ทำให้เกษตรกรในประเทศได้รับความเสียหายอย่างหนัก และในอนาคตอาจจะกระทบต่อเกษตรกรแขนงอื่นๆด้วยเหมือนกัน 

ฉริยะ ร้อง DSI สอบอธิบดีกรมปศุสัตว์-น้อง อดีต รมว. สวมสิทธิ์ส่งออกตีนไก่

ซึ่งตนอ้างว่า ทราบตัวข้าราชการระดับสูงที่เข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว และมีหลักฐานที่มาก็เพียงพอในการฟ้องร้อง รวมไปถึงมีผู้เสียหายอีกหลายคน ที่พร้อมจะมาให้ข้อมูลกับดีเอสไอ และก่อนหน้านี้ตนเองก็ได้นำหลักฐานบางส่วนไปมอบให้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นอกจากนี้นายอัจฉริยะยังอ้างอีกว่า นายทุนที่อยู่เบื้องหลัง เป็นน้องชายของอดีตรัฐมนตรีพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาล พยายามวิ่งเต้นอย่างหนัก ให้ที่ปรึกษามาคุยกับตน โดยติดต่อผ่านผู้การคนหนึ่งในกองบัญชาการสอบสวนกลาง และจะจ่ายเงินให้เพื่อไม่ให้ไปฟ้องร้อง แต่ตนก็ปฏิเสธและด่ากลับไป เพราะตนไม่ใช่โสเภณีที่จะเอาเงินมาซื้อตัวได้ ทั้งนี้ นายอัจฉริยะยืนยันว่า จะต้องล้างบางกับข้าราชการระดับสูงที่คดโกง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศไทย ให้ได้รับความเป็นธรรม

ส่วนกรณีที่อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้ไปฟ้องร้องตนในข้อหาหมิ่นประมาทนั้น นายอัจฉริยะระบุว่า ไม่ได้กังวล เป็นคดีเล็กน้อย ยิ่งไปฟ้องตน ก็ยิ่งทำให้ดูโง่ พร้อมกับย้อนความให้ฟังว่า ในอดีตไม่เคยมีข้าราชการคนไหนฟ้องชนะตนเลยสักครั้ง ขนาดอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ยังฟ้องไม่ชนะตน