สาวแปลกใจ ประกาศขายบ้าน แต่ขายไม่ออก มาดูถึงกับเดือด เห็นสภาพเข้าใจทันที

06 กุมภาพันธ์ 2566

สาวแปลกใจ ประกาศขายบ้านยังไงก็ขายไม่ออก มาดูถึงกับเดือดเห็นสภาพเข้าใจทันที ที่แท้วีรกรรมเพื่อนบ้านตัวแสบ

กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียล จากกรณีที่สาวผู้ใช้ TikTok @nacky_strong ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวที่ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเดือด หลังเธอได้ประกาศขายบ้านของตัวเอง แต่กลับขายไม่ออกสักที ก่อนเจอสาเหตุถึงกับร้องอ๋อทันที ที่แท้วีรกรรมความเห็นแก่ตัวของเพื่อนบ้านตัวแสบนี่เอง โดยผู้โพสต์เล่าว่า

สาวแปลกใจ ประกาศขายบ้าน แต่ขายไม่ออก มาดูถึงกับเดือดเห็นสภาพเข้าใจทันที

เธอนั้นได้ประกาศขายบ้านแต่ขายไม่ออก ก่อนรู้สาเหตุถึงกับเดือด ที่แท้เป็นเพราะพฤติกรรมของเพื่อนบ้านที่เห็นแก่ตัว เช่น จอดรถขวางหน้าบ้าน นำราวตากผ้ามาวางหน้าบ้าน นำกระบะทรายแมวมาวางหน้าบ้าน ซึ่งทุกครั้งที่เธอกลับมาดูก็จะเห็นแบบนี้ทุกครั้ง สภาพล่าสุดยิ่งเอาใหญ่

สาวแปลกใจ ประกาศขายบ้าน แต่ขายไม่ออก มาดูถึงกับเดือดเห็นสภาพเข้าใจทันที

สาวแปลกใจ ประกาศขายบ้าน แต่ขายไม่ออก มาดูถึงกับเดือดเห็นสภาพเข้าใจทันที

เพราะล่าสุดเพื่อนบ้านบุกรุกเข้ามาจนถึงภายในบ้าน ซึ่งภาพที่เธอเห็นคือเพื่อนบ้านนำราวตากผ้ามาวางจนบังป้ายขายบ้าน นำท่อยาวมาวางขวางประตูบ้านแถมยังมีของลักษณะเป็นกล่องพัสดุขนาดใหญ่จำนวนมาก อยู่ในบ้านของเธออีกด้วย  

สาวแปลกใจ ประกาศขายบ้าน แต่ขายไม่ออก มาดูถึงกับเดือดเห็นสภาพเข้าใจทันที

สาวแปลกใจ ประกาศขายบ้าน แต่ขายไม่ออก มาดูถึงกับเดือดเห็นสภาพเข้าใจทันที

 โดยก่อนหน้านี้เธอบอกว่า เธอเคยเจอเพื่อนบ้านมาวางราวตากผ้าขวางหน้าบ้าน ตะโกนเรียกตั้งนานให้มาขยับไม่มีคนออกมา เธอต้องยกออกเอง แต่พอจะขับรถกลับถึงเพิ่งมีคนออกมาขยับกลับมาตากที่เดิม คืออะไร ไม่เกรงใจกันเลย วางกันเต็มเลย จึงไม่แปลกใจทำไมถึงขายไม่ได้สักที

สาวแปลกใจ ประกาศขายบ้าน แต่ขายไม่ออก มาดูถึงกับเดือดเห็นสภาพเข้าใจทันที

งานนี้หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปได้มีชาวเน็ตเข้ามาคอมอเมนต์สนั่น ซึ่งหลายๆคนต่างเห็นใจเจ้าของบ้านอย่างมาก   อาทิ แนะนำติดกล้องวงจรปิดแบบที่สามารถพูดผ่านกล้องได้แล้วต่อลำโพงอีกทีพอเขาเอาของมาวางพี่ก็พูดผ่านกล้องเตือนเขาเอาครับ,ราวตากผ้าพอเข้าใจเพราะไม่มีคนอยู่ขอมาตากแต่กล่องเอาไปเรียงในบ้านเหมือนบ้านตัวเอง,เอ็นดูเจ้าของบ้าน,เป็นกำลังให้เจ้าของบ้านเลยค่ะ เจอแบบนี้ไม่ไหว เป็นต้น

ขอบคุณ TikTok @nacky_strong

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews