ไทยโดนด้วย ยักษ์ใหญ่รถยนต์ปิดโรงงาน 7 แห่ง เลิกจ้างอีก 20,000 คน

ไทยโดนด้วย ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของไทยประกาศปิดโรงงาน 7 แห่งทั่วโลก พร้อมเลิกจ้างพนักงานกว่า 20,000 ราย หลังเผชิญภาวะขาดทุนอย่างหนัก
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น ได้ประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เพื่อรับมือกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนและฟื้นฟูธุรกิจให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง แผนดังกล่าวรวมถึงการปิดโรงงาน 7 แห่งจากทั้งหมด 17 แห่งทั่วโลก และการเลิกจ้างพนักงานราว 20,000 คน คิดเป็นประมาณ 15% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัท
ตามรายงาน ระบุว่า แผนดังกล่าวเป็นแนวทางใหม่ที่นำโดยอีวาน เอสปิโนซา ประธานและซีอีโอคนใหม่ของนิสสัน ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเขามีแผนควบรวมสายการผลิตในประเทศไทย และเตรียมย้ายสายการผลิตจากอาร์เจนตินาไปยังบราซิล ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประเมินโรงงานในประเทศอื่นๆ รวมถึงญี่ปุ่น
แผนฟื้นฟูครั้งนี้มีลักษณะคล้ายกับเมื่อปี 2542 ที่นิสสันเคยปลดพนักงานถึง 21,000 คน และปิดโรงงานในญี่ปุ่น เพื่อตอบรับกับวิกฤตการเงินในขณะนั้น
- การประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดเผยผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2567 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2568) ซึ่งบริษัทขาดทุนสุทธิกว่า 6.7 แสนล้านเยน (ราว 150,000 ล้านบาท) แม้จะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7-7.5 แสนล้านเยน
ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่เพียง 6.98 หมื่นล้านเยน ลดลงกว่า 88% จากปีก่อนหน้า และบริษัทจะงดจ่ายเงินปันผลเป็นปีที่สองติดต่อกัน
นิสสันขาดทุนหนักจากตลาดหลัก เดินหน้าลดต้นทุน-ย้ายฐานการผลิต
ในปีงบประมาณ 2566 นิสสันเคยทำกำไรสุทธิได้ถึง 426,000 ล้านเยน แต่ในปีล่าสุด บริษัทประสบปัญหารายได้ลดลงจากยอดขายที่ตกต่ำในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐฯ และจีน ประกอบกับรายการด้อยค่าทางบัญชีในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ส่งผลให้ผลประกอบการทรุดตัวลงอย่างหนัก
ปรับแผน-ลดต้นทุน-เร่งย้ายฐานการผลิต
เอสปิโนซา ผู้บริหารของนิสสัน ระบุว่า ปีงบประมาณปัจจุบันจะเป็น “ปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน” โดยบริษัทตั้งเป้าลดต้นทุนคงที่ลง 500,000 ล้านเยนภายในสิ้นปี 2570 ผ่านมาตรการลดจำนวนพนักงาน ปิดโรงงานบางแห่ง ปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน และออกแบบชิ้นส่วนให้เรียบง่ายขึ้น
อีกหนึ่งกลยุทธ์คือ การพิจารณาส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในจีนไปยังประเทศอื่น เพื่อลดต้นทุนและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านภาษีศุลกากรทั่วโลก
เจอแรงกดดันจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เดินหน้าเพิ่มการผลิตในประเทศ
นิสสันยังเผชิญแรงกดดันจากนโยบายภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ของสหรัฐฯ ซึ่งริเริ่มในยุคอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ผลิตในญี่ปุ่นและเม็กซิโก คาดว่าผลกระทบทางลบในปีนี้จะสูงถึง 450,000 ล้านเยน
เพื่อบรรเทาผลกระทบ บริษัทจึงวางแผนเพิ่มการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายในสหรัฐฯ แทน
ยุติแผนควบรวมนิสสัน-ฮอนด้า แต่ยังเปิดทางพันธมิตรใหม่
แม้ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่านิสสันอาจควบรวมกับฮอนด้า มอเตอร์ แต่บริษัทได้ยุติการเจรจาไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เอสปิโนซายืนยันว่า นิสสันยังคงเปิดรับความร่วมมือใหม่ โดยเฉพาะกับพันธมิตรนอกอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

ไทยโดนด้วย ยักษ์ใหญ่รถยนต์ปิดโรงงาน 7 แห่ง เลิกจ้างอีก 20,000 คน

เหลือเชื่อ เรื่องราวของจระเข้ที่ใหญ่ที่สุด คุณอาจไม่เคยรู้

เพจดังตั้งคำถาม ข้าวไข่ดาว 65 บาท ในยุคนี้ถูกหรือเเพง ชาวเน็ตถกเสียงแตก

เผยค่ารักษา "นักบินหนุ่ม" พร้อมเหตุผลขอรับบริจาค หลังป่วยมะเร็ง
