สั่งย้าย 2 ตำรวจจราจร หลังโผล่ในคลิปสาวจีน จ้างตำรวจขับรถนำขบวน

22 มกราคม 2566

สั่งย้าย 2 ตำรวจจราจร หลังโผล่ในคลิปสาวจีนรีวิวลัดคิวเข้า ตม. และจ้างตำรวจขับรถนำขบวน จนกลายคลิปไวรัลในประเทศจีน

ฉาวหนักจากกรณีคลิปไวรัลของประเทศจีน ที่สาวจีนรายหนึ่งได้รีวิวทดสอบใช้บริการตำรวจไทย ว่าใช้เงินซื้อได้อย่างที่มีการพูดถึงกันหรือไม่ โดยในคลิปจะเห็นว่ามีตำรวจมารัยสาวจีนถึงประตูเครื่องบิน เดินนำทาง ยกกระเป๋า เปิดประตูรถให้ ขับรถนำขบวนเปิดไฟฉุกเฉินส่งถึงที่พัก

สั่งย้าย 2 ตำรวจจราจร หลังโผล่ในคลิปสาวจีน จ้างตำรวจขับรถนำขบวน

 

หลังจากที่เรื่อวราวดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารษ์กันอย่างหนัก พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.)  เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคลิปตำรวจไทยขับรถนำขบวนนักท่องเที่ยวจีนว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการด่วนให้จเรตำรวจตรวจสอบ เบื้องต้นมีการพิสูจน์ทราบแล้วว่า บุคคลที่ปรากฎในคลิปเป็นตำรวจจริง  3 นาย โดยเป็นตำรวจท่องเที่ยว 1 ราย เป็นรองสารวัตรกองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และ ตำรวจ บก.จร. 2 นาย 

ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต. ม.ล. สันธิกร วรวรรณ ผู้บังคับกองบังคับการท่องเที่ยว 1 ได้สั่งการให้ผู้กำกับการ 3 ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามสั่งการแล้วตามหนังสือ บก.ทท.1 เลขที่ 0038.201/255 ลง 21 ม.ค.2566

 

สั่งย้าย 2 ตำรวจจราจร หลังโผล่ในคลิปสาวจีน จ้างตำรวจขับรถนำขบวน

ส่วน ตำรวจ บก.จร. ทั้ง 2 นาย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการออกคำสั่งตั้งสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับ ออกคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บก.จร. และสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ผกก. , รอง ผกก. และ สว. ที่ควบคุมกำกับตำรวจ 2 รายนี้ด้วย

ทั้งนี้ โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผบ.ตร.ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก สั่งการให้ตรวจสอบทุกประเด็น ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น ใครสั่งการ ประสานงาน มีอำนาจหน้าที่แค่ไหนอย่างไร พร้อมประเด็นรถที่ใช้ในการนำขบวน มีการนำรถหลวง รถทางราชการ มาใช้ส่วนตัวหรือไม่ ตรวจสอบรถยนต์ที่ปรากฎในคลิปทุกคันที่เกี่ยวข้อง และให้ตรวจสอบย้อนหลังไปว่าเคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ทำเป็นขบวนการหรือไม่ ต้องตรวจสอบทุกข้อสงสัยของสังคม ให้เกิดความกระจ่างโดยเร็วที่สุด 

นอกจากนี้ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้จเรดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด และสั่งการกำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายทุกสังกัดห้ามปฏิบัติไปในลักษณะดังกล่าวอีก มิเช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดทุกราย

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews