ยามชายฝั่งตกใจ 3 หนุ่มนั่ง หางเสือ ใต้เรือบรรทุกน้ำมัน มาไกลกว่า 5,000 กม.

ยามชายฝั่ง พบผู้ชาย 3 คนนั่งบน "หางเสือ" ใต้เรือบรรทุกน้ำมัน คาดว่าแอบเดินทางข้ามประเทศมาไกลกว่า 5,000 กิโลเมตร
จากกรณีมีรายงานจากสื่อต่างประเทศ เรื่องราวของ ชาย 3 คน ที่แอบเดินทางมากับเรือ ซึ่งเบื้องต้นทางการสเปนระบุข้อมูลถึงเหตุการณ์นี้ว่า พวกเขา แอบนั่งบนหางเสือของเรือลำหนึ่งหลังเดินทาง 11 วัน จากไนจีเรีย เป็นระยะทางกว่า 5,000 กิโลเมตร จนกลายเป็นเคสที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอย่างมาก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
โดยรายงานเผยให้เห็น ภาพถ่ายที่หน่วยยามฝั่งเผยผู้ชาย 3 คน นั่งบนหางเสือที่ท้ายเรือบรรทุกน้ำมัน ซึ่งเท้าอยู่ห่างจากน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร ทั้งหมดถูกนำไปส่งโรงพยาบาล ที่จุดหมายปลายทางของเรือ ในเกาะกรันกานาเรีย และได้รับการรักษาภาวะขาดน้ำปานกลาง ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ชาย 3 คนใช้เวลาตลอดการเดินทางบนหางเสือหรือไม่
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ทว่าตามรายงานระบุว่า เรือบรรทุกน้ำมันอัลธีนี ทู (Althini II) ติดธงมอลตา จากเมืองลากอส เมืองใหญ่ที่สุดของไนจีเรีย มาถึงเมืองลัสปัลมัส เกาะกรันกานาเรียของสเปน ซึ่งเป็นการเดินทางมากกว่า 2,700 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 5,000 กิโลเมตร ตามข้อมูลที่เว็บไซต์ติดตามการเดินเรือรวบรวม
พร้อมกันนี้ สำนักข่าวอีเอฟอีของสเปน ยังได้รายงานว่า แพทย์ที่ท่าเทียบเรือพบผู้ชาย 3 คน ซึ่งถูกนำไปส่งโรงพยาบาลโดยไม่รอช้า ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพบคนบนหางเสือ ซึ่งเป็นครีบคล้ายใบมีดขนาดใหญ่ใต้ท้องเรือและใช้ในการบังคับเลี้ยว
ก่อนหน้านี้ในปี 2563 มี เด็กชายวัย 14 ปี ที่เดินทางจากเมืองลากอสไปเกาะกรันกานาเรีย ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เอล ปาอิส (El Pais) ของสเปนว่า เขาใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 15 วันบนหางเสือของเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อมาถึง หลังเอาตัวรอดจากน้ำเกลือและผลัดกันนอนในรูที่อยู่บนหางเสือกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่ร่วมเดินทางด้วย
และอีกเหตุการณ์ในปีเดียวกันเป็นชาย 4 คนที่อยู่บนหางเสือของเรือบรรทุกน้ำมันแชมเปียน ปูลา (Champion Pula) ของนอร์เวย์ หลังเรือเดินทางจากเมืองลากอสไปเมืองลัสพัลมัส รายงานในเวลานั้นกล่าวว่า ชายกลุ่มเหล่านี้ซ่อนตัวในห้องหลังหางเสือในทะเลเป็นเวลา 10 วัน
อย่างไรก็ตามมีข้อมูลระบุเพิ่มเติมว่า จำนวนผู้อพยพข้ามเรือจากแอฟริกาตะวันตกไปหมู่เกาะกานารีของสเปนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเดินทางนั้นยาวนาน อันตราย และร้ายแรง ขณะที่องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ของสหประชาชาติบันทึกในปี 2564 มีผู้เสียชีวิต 1,532 รายบนเส้นทางนี้
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews

สีเสื้อต้องเลี่ยง 13 พฤษภาคม 2568 ตรงวันอังคาร มีเพียงไม่กี่สีเท่านั้น

จ๊ะ นงผณี โพสต์แคปชั่นสุดจี๊ด สะท้อนรักที่ไม่ถูกเลือก

เปิดประวัติ "สจ.กอล์ฟ" ทายาท สส.พรรคดัง แห่งเมืองสงขลา

อพยพด่วน ไฟไหม้ลาดกระบัง ใครอยู่ใกล้ 300 เมตร รีบติดต่อศูนย์พักพิง
