สาว ไอเรื้อรัง 1 ปี นึกว่าฝุ่น pm 2.5 รู้ความจริงตกใจ เกิดจากเมนูโปรด

สาว ไอเรื้อรัง 1 ปี จนเป็นเลือด ตอนแรกนึกว่าเป็นเพราะฝุ่น pm 2.5 รู้ความจริงตกใจ เกิดจากเมนูโปรดที่ชอบกินเป็นประจำ
หลายคนพอไอเรื้อรังหรือไอมีเลือดปน มักนึกถึงวัณโรคหรือมะเร็งปอดเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะในยุคที่ฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงและปัจจัยเสี่ยงรายล้อม แต่ใครจะคิดว่า “เมนูดิบ” ใกล้ตัว อาจเป็นต้นเหตุของอาการที่น่ากลัวไม่แพ้กัน
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 เพจ Tensia ได้เผยเคสตัวอย่างด้านสุขภาพของผู้ป่วยหญิงไทยวัย 34 ปี ที่มีอาการไอเรื้อรังนานเกือบ 1 ปี ก่อนจะเริ่มไอเป็นเลือด จนทุกคน—including ตัวผู้ป่วยเอง—ต่างกังวลว่าจะเป็นวัณโรคหรือมะเร็งปอด ทว่าคำตอบสุดท้ายกลับไม่ใช่ทั้งสองอย่าง แต่คือ พยาธิใบไม้ปอด ที่มากับการกินปูดิบ
ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีโรคประจำตัว ไอมีเสมหะเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงเช้า บางวันเสมหะมีสีคล้ำ แต่ไม่มีไข้ ไม่เจ็บหน้าอก น้ำหนักไม่ลด และยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ เธอจึงคิดว่าเป็นเพียงอาการแพ้อากาศ ไอจากควัน หรือผลกระทบจากฝุ่น PM2.5
กระทั่งวันหนึ่งเริ่มมีเสมหะปนเลือดคล้ำ ลักษณะเหมือนเลือดเก่าออกมาเป็นเส้น ๆ ความกังวลจึงเริ่มก่อตัว กลัวว่าจะเป็นโรคร้ายตามข่าว แม้อาการจะดีขึ้นเป็นช่วง ๆ แต่เลือดในเสมหะก็กลับมาอีก สุดท้ายจึงตัดสินใจเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล
แพทย์ตรวจร่างกายไม่พบไข้ ต่อมน้ำเหลืองไม่โต แต่ฟังปอดได้ยินเสียงผิดปกติ ผลตรวจเลือดพบว่าเม็ดเลือดขาวชนิด อีโอซิโนฟิล สูง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อพยาธิ ขณะที่ผลตรวจเสมหะหาเชื้อวัณโรค (AFB) ให้ผลลบ
ภาพเอกซเรย์ปอดพบลักษณะคล้ายมีโพรงในปอด และการทำ CT scan ยืนยันว่ามีรอยโรคและโพรงจริง แต่ตำแหน่งและลักษณะไม่สอดคล้องกับวัณโรค เมื่อสืบค้นต่อด้วยการตรวจอุจจาระ จึงพบ ไข่พยาธิใบไม้ปอด และจากการซักประวัติเพิ่มเติม ผู้ป่วยยอมรับว่ามีการกินปูน้ำจืดดิบเป็นประจำ ซึ่งเป็นแหล่งพาหะสำคัญ
แพทย์จึงวินิจฉัยว่าเป็น พยาธิใบไม้ปอดลุกลามปอด (Pulmonary Paragonimiasis) และให้การรักษาด้วยยาฆ่าพยาธิ Praziquantel หลังการรักษา อาการไอค่อย ๆ ดีขึ้น เสมหะที่มีเลือดปนหายไป และภาพเอกซเรย์ปอดเริ่มจางลงตามลำดับ
กรณีนี้สะท้อนว่า อาการไอเรื้อรังหรือไอมีเลือดปน ไม่ได้หมายถึงวัณโรคหรือมะเร็งเสมอไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังนิยมกินสัตว์น้ำจืดดิบ พยาธิใบไม้ปอดสามารถอาศัยอยู่ในร่างกายได้นานหลายปีแบบเงียบ ๆ ก่อนก่อความเสียหายเรื้อรัง เมื่อไข่พยาธิเข้าสู่ร่างกาย จะฟักในลำไส้และไชไปอยู่ที่ปอดซึ่งมีออกซิเจนเหมาะสม
ทางที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงการกินสัตว์น้ำจืดดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะภัยร้ายอาจซ่อนอยู่ในคำที่เผลอกินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

ชุดเฝ้าระวังช้างป่า เร่งติดตามและผลักดันช้าง 5 ตัว กลับสู่ป่า

ฟรีรับปีใหม่! เปิดมอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน-โคราช เริ่ม 30 ธ.ค.

กองทัพบก แจ้งเร่งค้นหาร่างทหาร 2 นายวันนี้ หลังถูกซุ่มโจมตี

รับมอบ "เหยี่ยว" บาดเจ็บ ผ่านการแจ้งผ่านสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362
















