สศท.4 ปั้น "ข้าวเขียวหยก" ข้าวน้ำนมคุณค่าแน่น ดันเฉิดฉายเวทีโลก

สศท.4 ปั้น "ข้าวเขียวหยก" ข้าวน้ำนมคุณค่าแน่น สู่ซูเปอร์ฟู้ดร้อยเอ็ด บุกงานเทศกาลข้าวหอมมะลิโลก 10–14 ธ.ค. 2568
สศท.4 ส่งเสริมเกษตรกรร้อยเอ็ดพัฒนาการผลิต "ข้าวเขียวหยก" จากพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ซึ่งเป็นข้าวเก็บเกี่ยวระยะน้ำนม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยมีเกษตรกรต้นแบบคือ นายสวัสดิ์ ลาโพธิ์ ที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านการผลิตและการตลาด พร้อมเตรียมนำผลผลิตไปจำหน่ายในงาน เทศกาลข้าวหอมมะลิโลก ครั้งที่ 25 วันที่ 10–14 ธันวาคม ที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อส่งเสริมข้าวไทยให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มรายได้เกษตรกร
สศท.4 หนุน ศกอ.ร้อยเอ็ด ปั้น "ข้าวเขียวหยก" จากหอมมะลิ 105 สู่สินค้ามูลค่าเพิ่ม ชวนประชาชนอุดหนุนในงาน "เทศกาลข้าวหอมมะลิโลก ครั้งที่ 25" ที่ร้อยเอ็ด 10–14 ธ.ค.นี้
นายนพดล ศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 4 ขอนแก่น (สศท.4) เปิดเผยว่า ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มุ่งยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตร เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และผลักดันสินค้าเกษตรมูลค่าสูง "ข้าวเขียวหยก" ถือเป็นหนึ่งในสินค้าศักยภาพที่ตอบโจทย์ตลาดคนรักสุขภาพ เนื่องจากเป็นข้าวที่เก็บเกี่ยวในระยะน้ำนม ทำให้เมล็ดอุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร โดยเฉพาะสาร GABA ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท อีกทั้งมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานและผู้ควบคุมระดับน้ำตาล รวมถึงมีใยอาหารสูงที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร
จากการลงพื้นที่ของ สศท.4 พบเกษตรกรต้นแบบที่ประสบผลสำเร็จคือ นายสวัสดิ์ ลาโพธิ์ เศรษฐกิจการเกษตรอาสาและประธานศูนย์เรียนรู้ ศพก. รวมถึงประธานศูนย์ข้าวชุมชนบ้านสงเปลือย ต.เมืองทอง อ.เมืองร้อยเอ็ด ซึ่งได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร เช่น เครื่องอบลดความชื้น เครื่องสีข้าว และเครื่องซีลสุญญากาศ จากกรมการข้าว ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ปี 2564
นายสวัสดิ์เล่าว่าเริ่มทดลองปลูก "ข้าวเขียวหยก" ครั้งแรกในปี 2566 โดยใช้พันธุ์หอมมะลิ 105 พบว่าตลาดตอบรับดีจึงขยายการผลิตต่อเนื่อง ปัจจุบันปลูกบนพื้นที่ 5 ไร่ ให้ผลผลิตปี 2568 รวม 2,000 กิโลกรัม โดยปลูกปีละหนึ่งรอบ ช่วงกรกฎาคมและเก็บเกี่ยวเดือนพฤศจิกายน ใช้เวลาประมาณ 100–110 วัน การดูแลคล้ายการทำนาทั่วไป แต่มีขั้นตอนสำคัญคือการระบายน้ำออกจากแปลงช่วงอายุ 80–90 วัน เพื่อเพิ่มความหอมเฉพาะตัว และต้องเก็บเกี่ยวในวันที่แดดจัดเพื่อลดความชื้นของเมล็ด
หลังเก็บเกี่ยว ข้าวจะมีความชื้น 32–40% ก่อนนำเข้าเครื่องอบจนเหลือ 14% เพื่อรักษาคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการ จากนั้นเก็บเป็นข้าวเปลือกและสีเมื่อได้รับคำสั่งซื้อ พร้อมบรรจุแบบสุญญากาศขนาด 1 กิโลกรัม เพื่อคงความเขียวสดของเมล็ดข้าว
ด้านการตลาด ราคาจำหน่ายข้าวเขียวหยก (พ.ย. 2568) อยู่ที่กิโลกรัมละ 70 บาท สูงกว่าข้าวหอมมะลิทั่วไปประมาณ 20 บาท ตลาดหลักเป็นออนไลน์ 70% และหน้าร้าน 30% โดยปีหน้าเตรียมขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็น 10 ไร่ รวมถึงขยายเครือข่ายเกษตรกรอีกประมาณ 10 ราย เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นายสวัสดิ์ได้สำรองผลผลิต 1 ตันสำหรับจำหน่ายในงาน "เทศกาลข้าวหอมมะลิโลก ครั้งที่ 25" เดือนธันวาคมนี้
นายนพดลกล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมจัดงานส่งเสริมผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิจากแหล่งปลูกคุณภาพ ระหว่างวันที่ 10–14 ธันวาคม 2568 ณ อ่างเก็บน้ำธวัชชัย ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี ซึ่งภายในงานจะมีนิทรรศการเทคโนโลยีการผลิตข้าว การเจรจาธุรกิจ (Business Matching) การแสดงศิลปวัฒนธรรม และกิจกรรมบันเทิงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจพื้นที่ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมอุดหนุนผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิไทย
ผู้สนใจการผลิตข้าวเขียวหยกหรือเข้าศึกษาดูงานสามารถติดต่อได้ที่ นายสวัสดิ์ ลาโพธิ์ โทร. 09 3053 5456 โดยผู้อำนวยการ สศท.4 ยืนยันพร้อมสนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่ทุกท่าน

งามอย่างสง่า “วาเนสซ่า” เปิดใจหลังถือป้ายกัมพูชาในพิธีซีเกมส์

"น้องข้าวต้ม" ลูกช้างป่าเพศเมียอาการดีขึ้น ทีมสัตวแพทย์ดูแล

จีมินยอง อินฟลูเอนเซอร์ กัมพูชาเปิดศึกใหม่ เหยียดศิลปินไทย

"หวยลาววันนี้" 12/12/68 ตรวจหวยลาว หวยลาววันนี้ หวยลาว 12 ธ.ค. 68
















