ดักจับ มะม่วงแก้วขมิ้นลักลอบนำเข้า 13 ตัน ยึดของกลางเพียบ

ฉก.พญานาคราชบุกสกัดรถต้องสงสัย ยึดมะม่วงแก้วขมิ้นกว่า 13 ตัน มูลค่ากว่า 5 แสนบาท พบลักลอบนำเข้าไม่มีเอกสารผ่านพิธีการศุลกากร ส่งดำเนินคดีและทำลายตามกฎหมาย
เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชเดินหน้าปราบปรามการลักลอบสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ล่าสุดสั่งยึดมะม่วงแก้วขมิ้นกว่า 13 ตันจากรถบรรทุกต้องสงสัยในพื้นที่อุดรธานี หลังตรวจพบไม่มีเอกสารนำเข้าและไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ก่อนเร่งดำเนินคดีและทำลายของกลางตามขั้นตอนกฎหมาย
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา พันเอกรวิรักษ์ สัตตบุศย์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช (ฉก.พญานาคราช) เปิดเผยว่า “ฉก.พญานาคราช" โดยนายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วยนางสาววัชรินทร์ แหลมคม หัวหน้าด่านตรวจพืชหนองคาย ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช ด่านกักกันสัตว์ระหว่างประเทศ ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 2 (หนองคาย) และสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 บูรณาการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ได้รับรายงานมีรถบรรทุกต้องสงสัยบริเวณถนนหมายเลข 22 ตำบลหนองหาน อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจค้น พบการลักลอบนำเข้ามะม่วงแก้วขมิ้นจากต่างประเทศ บรรจุถุงพลาสติก 650 ถุง น้ำหนักรวม 13,000 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 520,000 บาทเต็มคันรถ โดยไม่มีเอกสารหรือหลักฐานการนำเข้าและไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242, มาตรา 246 ประกอบมาตรา 252 โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 จึงได้ยึดของกลางและส่งมอบให้ด่านศุลกากรเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อมา สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ได้ส่งมอบของกลางดังกล่าว (เป็นสิ่งของต้องห้ามตามกฎหมายกักพืช) ให้ด่านตรวจพืชหนองคายดำเนินการทำลายโดยวิธีฝังกลบด้วยดิน ณ สำนักสงฆ์สันติธรรม ตำบลหนองกอมเกาะ อำเภอเมืองหนองคาย แล้วเสร็จตามขั้นตอนกฎหมาย




















