กรมควบคุมโรคเผย 5 โรคระบาดพุ่ง พร้อมเตือน 7 กลุ่มเสี่ยง

กรมควบคุมโรคเผยสถานการณ์โรค 5 ชนิดเดือนที่ผ่านมา หวัดใหญ่ป่วยสะสมทะลุ 9 แสน แต่โรคหูดับยังรุนแรงสุด อัตราป่วยตาย 5.26% พร้อมเตือน 7 กลุ่มเสี่ยงรีบฉีดวัคซีน
กรมควบคุมโรค (คร.) แถลงสถานการณ์โรคที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (19 ต.ค.–15 พ.ย. 2568) พบว่า โรค 5 ชนิดมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย ไข้หวัดใหญ่ มีจำนวนผู้ป่วยสูงที่สุด แต่โรคที่น่ากังวลที่สุดคือ ไข้หูดับ เพราะมีอัตราป่วยตายสูงถึง 5.26% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในบรรดาโรคติดเชื้อที่รายงานในช่วงนี้
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2568 พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ และ นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ โฆษกกรมควบคุมโรค ร่วมแถลงข่าว “พฤศจิกายนี้สุขภาพดี แข็งแรงทุกวัย ใส่ใจสุขภาพ” พร้อมเผยข้อมูลโรคที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นดังนี้
5 โรคที่ต้องเฝ้าระวัง ผู้ป่วยพุ่งต่อเนื่อง
1. ไข้หวัดใหญ่ – ครองอันดับ 1 ยอดพุ่งกว่า 161,000 รายในเดือนเดียว
- ผู้ป่วยในรอบเดือน: 161,940 ราย
- สะสมตั้งแต่ต้นปี: 940,869 ราย
- เสียชีวิต: 100 ราย
2. อุจจาระร่วง – ครอบงำเด็กเล็ก ระบาดในโรงเรียนสูงสุด
- ผู้ป่วยเดือนเดียว: 62,157 ราย
- สะสมทั้งปี: 735,188 ราย
- เสียชีวิต: 9 ราย
3. ปอดอักเสบ – รุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่ ผู้สูงอายุ–เด็กเล็กเสี่ยงสุด
- ผู้ป่วยเดือนเดียว: 35,953 ราย
- สะสมทั้งปี: 397,147 ราย
- เสียชีวิต: 695 ราย
4. RSV – เด็กเล็กติดเชื้อหนัก ต้องนอนโรงพยาบาลเกือบ 40%
- ผู้ป่วยเดือนเดียว: 9,698 ราย
- สะสมทั้งปี: 41,995 ราย
- เสียชีวิต: 8 ราย
5. อาหารเป็นพิษ – พบผู้ป่วย 8,375 ราย
ส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารปนเปื้อนในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
ไข้หูดับ: อัตราป่วยตายสูงที่สุด – อันตรายเกินคาด
แม้จำนวนผู้ป่วยไม่มาก แต่ อัตราป่วยตายสูงสุด ได้แก่
- ไข้หูดับ: 5.26%
รองลงมา
- เมลิออยโดสิส 3.75%
- เลปโตสไปโรสิส 0.94%
- สครับไทฟัส 0.19%
- ไข้เลือดออก 0.14%
โรคไข้หูดับเกิดจากการบริโภคหมูดิบ เลือดดิบ หรืออาหารปนเปื้อนเชื้อ การลวกพริกน้ำปลาไม่ช่วยฆ่าเชื้อ ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่าต้องเลี่ยงเนื้อดิบทุกชนิด
คำแนะนำเพื่อป้องกัน – สวมหน้ากาก–ล้างมือยังสำคัญที่สุด
กรมควบคุมโรคขอให้ประชาชนรักษาสุขอนามัยอย่างเข้มงวด ได้แก่
- สวมหน้ากากในพื้นที่เสี่ยง
- ล้างมือบ่อย
- เลี่ยงสถานที่แออัด
- หากมีอาการป่วยให้หยุดงาน–หยุดเรียน และรีบพบแพทย์
7 กลุ่มเสี่ยงที่ควรรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
1. หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
2. เด็ก 6 เดือน – ปีหน้าเพิ่มถึง 5 ปี
3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด หัวใจ ไตวาย
4. ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
5. ผู้พิการทางสมองช่วยเหลือตนเองไม่ได้
6. ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ติดเชื้อเอชไอวี
7. ผู้ที่น้ำหนักตั้งแต่ 100 กก. หรือ BMI ≥ 35
มีทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนปอดอักเสบ วัคซีน RSV และภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปสำหรับเด็กเล็ก แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อรับการป้องกันตามความเสี่ยง




















