ผลสำรวจชี้ คนไทยเกือบครึ่ง อ้วนเกินมาตรฐาน เสี่ยงเบาหวาน ความดัน

ผลสำรวจสุขภาพระดับชาติชี้ คนไทยกว่า 45% มีภาวะอ้วนและน้ำหนักเกิน เสี่ยงโรค NCDs พุ่ง พบผู้ป่วยเบาหวาน–ความดันรวมเกือบ 20 ล้านคน วัยทำงานเสี่ยงเพิ่ม
ผลการ สำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 7 (NHES) ปี 2567-2568 เผยข้อมูลน่าตกใจ พบว่า คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปกว่า 45% หรือราว 27.4 ล้านคน มีภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน ขณะเดียวกัน โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อย่างเบาหวานและความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมี ผู้ป่วยเบาหวาน 6.1 ล้านคน และความดันสูง 17.5 ล้านคน รวมแล้วเกือบ 20 ล้านคนทั่วประเทศ
สถานการณ์ NCDs รุนแรงต่อเนื่อง คนรุ่นใหม่เริ่มป่วยมากขึ้น
ศ.นพ.วิชัย เอกพลากร จากคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี เผยว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนผู้ป่วย NCDs เพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล โดยพบว่า
- เบาหวาน 10.6% (6.1 ล้านคน)
- ความดันโลหิตสูง 29.5% (17.5 ล้านคน)
- ไขมันในเลือดสูง 20%
- ภาวะอ้วน 45% (27.4 ล้านคน)
- กลุ่มอาการเมตาบอลิก (Metabolic Syndrome) อยู่ที่ 28%
ที่น่าห่วงคือ ผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ตัวว่าป่วย โดยกว่า 1.6 ล้านคนเป็นเบาหวานแต่ไม่เคยได้รับการวินิจฉัย และ 8.4 ล้านคนเป็นความดันสูงโดยไม่รู้ตัว
พฤติกรรมเสี่ยงในวัยรุ่นพุ่งสูง “บุหรี่ไฟฟ้า” ตัวจุดชนวน
รศ.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช หัวหน้าโครงการสำรวจฯ เผยว่า คนไทยจำนวนมากยังมี พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ทั้งสูบบุหรี่ ดื่มสุรา อ้วน และขาดการออกกำลังกาย โดยมีสถิติดังนี้
- สูบบุหรี่ 11 ล้านคน
- ดื่มสุรา 17 ล้านคน
- อ้วน 27 ล้านคน
- มีกิจกรรมทางกายไม่พอ 25 ล้านคน
ที่น่าตกใจคือ กลุ่มอายุน้อยกว่า 40 ปีเริ่มป่วย NCDs มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงครบทั้ง 4 อย่าง พบว่า เสี่ยงเบาหวานถึง 45.2% และความดันสูงถึง 76.8%
นอกจากนี้ ยังพบว่า 70% ของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในไทยอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นแนวโน้มอันตรายที่กำลังคุกคามสุขภาพคนรุ่นใหม่
ไทย “ตกเป้า” ตัวชี้วัด WHO ด้านสุขภาพ 6 รายการ
เมื่อเทียบกับเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ตั้งไว้ให้บรรลุในปี 2025 พบว่า ประเทศไทยไม่สามารถทำได้ถึง 6 ตัวชี้วัดหลัก เช่น
- ลดการสูบบุหรี่: เป้าหมาย 14.98% แต่ผลจริงอยู่ที่ 18.5%
- ลดอ้วน: เป้าหมาย 36.2% แต่ไทยอยู่ที่ 46.3%
- กิจกรรมทางกายต่ำ: เป้าหมาย 16.65% แต่จริงสูงถึง 42.6%
WHO จัดให้ไทยอยู่ในกลุ่ม “off track high” หรือมีความมั่นใจสูงว่าจะไม่สามารถบรรลุผลตามเป้าหมายได้
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ระบุว่า ข้อมูลนี้คือหลักฐานสำคัญที่ใช้กำหนด ยุทธศาสตร์การสร้างเสริมสุขภาพของประเทศ เช่น การรณรงค์ลดการดื่มสุรา หลังพบว่า ผู้ดื่มสุรามีค่าเอนไซม์ตับสูงกว่าคนทั่วไป 3–5 เท่า เสี่ยงโรคตับแข็งและมะเร็งตับ
ขณะที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผอ.สวรส. กล่าวเสริมว่า การสำรวจครั้งนี้เปรียบเสมือน “การลงทุนด้านข้อมูลสุขภาพ” ที่ช่วยให้ไทยมียุทธศาสตร์การป้องกันโรคได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สถานการณ์ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในไทยถือว่าอยู่ในระดับวิกฤต โดยเฉพาะใน กลุ่มวัยทำงานและเยาวชน ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่มขึ้น หากไม่เร่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและนโยบายเชิงรุก ไทยอาจเผชิญ “ระเบิดเวลา” ด้านสุขภาพในอนาคตอันใกล้
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

หมีสีน้ำตาลฮอกไกโด “ฮิกุมะ” นักล่าอันดับหนึ่งแห่งญี่ปุ่น

ใจหาย "น้องซอส" เบอร์ 13 กองหน้า ทีมหมอนทอง เตรียมย้ายโรงเรียน

ราคาทองวันนี้ 13 พฤศจิกายน 2568 ราคาทองวันนี้ปรับตัวอีกครั้งที่ 8

ออกกำลังกายกลางแจ้งท่ามกลางฝุ่น PM2.5 ได้คุ้มเสียหรือไม่
















