เปิด 9 ผัก ปลูกได้ในกล่องโฟม ปลูกกินเองง่าย ๆ ปลอดสารพิษ

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ในกล่องโฟม เป็นวิธีที่ง่ายและได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด เช่น ระเบียงคอนโด หรือพื้นที่เล็ก ๆ ข้างบ้าน ส่วยกล่องโฟมมีข้อดีหลายอย่างที่เหมาะสำหรับการปลูกผัก เพราะมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก วางได้ทั้งบนระเบียง ดาดฟ้า หรือหน้าบ้าน นอกจากนี้ การปลูกผักในกล่องโฟมยังช่วยให้เราควบคุมกระบวนการปลูกได้เองทั้งหมด ไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีตกค้าง ผักโตเร็วกว่าปลูกในดิน 30-50% ผักมีคุณภาพดีสด กรอบ มีรสชาติอร่อย ปลูกได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน

 

ผักที่เหมาะสำหรับปลูกในกล่องโฟม

 

• ผักสลัด : เช่น กรีนโอ๊ค, เรดโอ๊ค, บัตเตอร์เฮด, ผักกาดคอส, ผักกาดแก้ว, ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก
• ผักบุ้ง : ปลูกได้ทั้งจากเมล็ดหรือกิ่ง สามารถเก็บเกี่ยวได้เร็วและงอกใหม่หลังตัด
• คะน้า : โตเร็ว ดูแลง่าย เก็บเกี่ยวได้ใน 30–35 วัน
• กวางตุ้ง : มีหลายพันธุ์ที่เหมาะกับการปลูกในน้ำ และให้ผลผลิตเร็ว
• ผักกาดขาว : เมล็ดงอกง่าย ดูแลไม่ยาก เก็บเกี่ยวได้ใน 30 วัน
• ผักกาดเขียว : ทนร้อน โตไว ชอบแสงแดดจัด
• ผักโขม : ปลูกง่าย โตเร็ว ทนแดด ไม่ค่อยมีแมลงรบกวน
• ผักชี : ปลูกจากเมล็ดได้ง่าย เพียงรดน้ำเป็นประจำ ใช้เวลาประมาณ 20 วันก็เก็บกินได้
• ต้นหอม : ปลูกจากหัวหอมแห้งได้เลย ใช้เวลาเพียง 2–3 สัปดาห์ก็เก็บเกี่ยวได้

1. อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

• กล่องโฟมพร้อมฝา: นิยมใช้ขนาดประมาณ 60 x 40 ซม. หรือ 60 x 60 ซม.
• แผ่นโฟมเจาะรู: สำหรับทำเป็นฝาลอยน้ำ โดยเจาะรูให้พอดีสำหรับใส่ถ้วยปลูก (อาจใช้ฝากล่องโฟมมาตัดเจาะรูก็ได้)
• ถ้วยปลูก (Net Pot): ใช้สำหรับใส่ต้นกล้าและยึดกับแผ่นโฟม
• ฟองน้ำ: สำหรับเพาะเมล็ด
• เมล็ดพันธุ์ผัก: ผักสลัด เช่น กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค หรือผักสวนครัวบางชนิด เช่น ผักบุ้ง กวางตุ้ง
• สารละลายธาตุอาหาร A และ B: เป็นหัวใจสำคัญของไฮโดรโปนิกส์
• น้ำสะอาด

2. การเพาะเมล็ด

• ตัดฟองน้ำ: ตัดฟองน้ำเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1 x 1 นิ้ว และเจาะรูตรงกลาง
• หยอดเมล็ด: นำเมล็ดผัก 1-2 เมล็ด หยอดลงในรูฟองน้ำ
• การดูแล: นำฟองน้ำใส่ในถาดเพาะ รดน้ำให้ชุ่ม และ ปิดฝา วางไว้ในที่ร่ม รอประมาณ 3 - 5 วัน จนเมล็ดงอกเป็นต้นกล้า
• รับแดด: เมื่อเมล็ดเริ่มงอกแล้ว ให้ย้ายไปรับแสงแดดอ่อน ๆ เพื่อให้ต้นกล้าแข็งแรง จนมีใบจริง 2-3 ใบ จึงจะพร้อมย้ายลงกล่องปลูก (ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน แล้วแต่ชนิดผัก)

3. การเตรียมกล่องปลูก (กล่องโฟม)

 

• เตรียมฝากล่องโฟม: เจาะรู บนแผ่นโฟมให้มีขนาดพอดีกับถ้วยปลูก เพื่อให้สามารถใส่ถ้วยปลูกแล้วไม่หล่นลงไปในกล่อง ระยะห่างของรู ควรอยู่ที่ประมาณ 10-20 ซม. เพื่อให้ผักมีพื้นที่เจริญเติบโต ไม่บังแสงกัน
• เตรียมสารละลาย: ผสมสารละลายธาตุอาหาร A และ B ในอัตราส่วนที่กำหนด (ควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากปุ๋ย) เทน้ำและสารละลาย ที่ผสมแล้วลงในกล่องโฟม โดยให้ระดับน้ำสูงพอสมควรเพื่อให้รากต้นกล้าสามารถสัมผัสกับสารอาหารได้ทันที

4. การย้ายต้นกล้าลงกล่องปลูก

• ย้ายกล้า: นำต้นกล้าที่แข็งแรงแล้วพร้อมฟองน้ำ ใส่ลงในถ้วยปลูก
• ลงกล่อง: นำถ้วยปลูกใส่ลงในรูที่เจาะไว้บนแผ่นโฟม โดยให้รากของต้นกล้าสัมผัสกับสารละลายธาตุอาหารในกล่อง

 

5. การดูแลและการเก็บเกี่ยว

• แสงแดด: วางกล่องโฟมในบริเวณที่ได้รับแสงแดดเพียงพอ (ประมาณ 4-6 ชั่วโมงต่อวัน)
• ระดับน้ำและปุ๋ย: คอยดูแลระดับน้ำและสารละลายธาตุอาหารไม่ให้ลดต่ำเกินไป (อาจต้องเติมน้ำและปุ๋ยเพิ่มตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น ทุก 7-10 วัน) โดยสังเกตว่ารากยังคงจมอยู่ในสารละลาย

การเก็บเกี่ยว: เมื่อผักเจริญเติบโตเต็มที่ (เช่น ผักสลัดใช้เวลาประมาณ 40-45 วัน นับจากวันเพาะเมล็ด) ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้