ชี้ชัด ฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์ ในจีนกลาง มีอายุเก่าแก่ถึง 86 ล้านปี

วิธีหาอายุด้วยเลเซอร์ ฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์ ในจีนกลาง มีอายุเก่าแก่ถึง 86 ล้านปี โดยหากวิธีการนี้ถูกประยุกต์ใช้ในวงกว้าง อาจช่วยสร้างกรอบลำดับเวลาสำหรับทำความเข้าใจพฤติกรรมสืบพันธุ์ของไดโนเสาร์
ชี้ชัด ฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์ ในจีนกลาง มีอายุเก่าแก่ถึง 86 ล้านปี อู่ฮั่น, 4 ต.ค. สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า — คณะนักวิทยาศาสตร์ของจีนได้กำหนดอายุของฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์ ซึ่งขุดพบบริเวณเทือกเขาตามแนวลำน้ำสาขาของแม่น้ำแยงซีทางตอนกลางของจีน อยู่ที่ราว 86 ล้านปี โดยอาศัยวิธีการหาอายุที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิมและไม่เคยถูกใช้กับการหาอายุของเปลือกไข่ไดโนเสาร์มาก่อน
รายงานระบุว่าวิธีการหาอายุด้วยยูเรเนียม-ตะกั่ว (U-Pb) ใช้แสงเลเซอร์ทำให้แร่ธาตุในเศษฟอสซิลเปลือกไข่กลายเป็นไอ ซึ่งไอดังกล่าวประกอบด้วยอะตอมของยูเรเนียมและตะกั่ว โดยตลอดระยะเวลาหลายล้านปีที่ผันผ่าน ยูเรเนียมค่อยๆ กลายเป็นตะกั่วเหมือนเม็ดทรายทยอยไหลในนาฬิกาทราย
คณะนักวิทยาศาสตร์ตรวจวัดสัดส่วนของยูเรเนียมและตะกั่วที่ก่อตัวขึ้นมาใหม่ในแร่ธาตุเพื่อตัดสินว่า “นาฬิกาทราย” เดินไปนานเท่าไร ซึ่งช่วยเผยอายุของฟอสซิล โดยจ้าวปี้ นักวิจัยหลักจากสถาบันธรณีศาสตร์มณฑลหูเป่ย กล่าวว่าวิธีการนี้ถูกใช้คำนวณอายุของโลก แมกมาบนดวงจันทร์ และหินในถ้ำ
จ้าวกล่าวว่าก่อนการศึกษาครั้งนี้ วิธีการทั่วไปคือการหาอายุของชั้นหินที่ไข่ไดโนเสาร์ฝังตัวอยู่ แต่วิธีการโดยอ้อมดังกล่าวบอกช่วงเวลาโดยประมาณเท่านั้น เช่น ยุคครีเตเชียสตอนปลายที่ย้อนเวลากลับไป 66-100 ล้านปี และขาดแคลนความแม่นยำ
ผลการศึกษาใหม่ที่เผยแพร่ผ่านวารสารฟรอนเทียร์ส อิน เอิร์ธ ไซเอนซ์ ระบุว่าทีมของจ้าวใช้วิธีการหาอายุด้วยยูเรเนียม-ตะกั่วกับฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์ยุคครีเตเชียสเป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยตัดสินอย่างแม่นยำว่าแร่ธาตุภายในเปลือกไข่ที่ขุดพบจากเทือกเขาชิงหลงก่อตัวเมื่อ 84.17-87.65 ล้านปีก่อน
จ้าวกล่าวว่าสภาพภูมิอากาศโลกในช่วงเวลานั้นมีการเปลี่ยนแปลงอันมีนัยสำคัญ โดยค่อยๆ เย็นตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากสภาวะเรือนกระจกนับตั้งแต่ราว 93 ล้านปีก่อน ซึ่งการศึกษาครั้งนี้บ่งชี้ว่าไดโนเสาร์ในเทือกเขาชิงหลงวางไข่ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเย็นตัวลง
ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา คณะนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์ในเทือกเขาชิงหลง เมืองสือเยี่ยน มณฑลหูเป่ย นำสู่การจัดตั้งเขตอนุรักษ์ธรรมชาติระดับชาติและพิพิธภัณฑ์ในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์อยู่มากกว่า 3,000 ฟอง
จางสู่คัง ผู้ร่วมเขียนผลการศึกษาจากสถาบันบรรพชีวินวิทยาสัตว์มีกระดูกสันหลังและบรรพมานุษยวิทยา สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน กล่าวว่าไข่ไดโนเสาร์ส่วนใหญ่ในเทือกเขาชิงหลงอาจจัดอยู่ในหนึ่งสกุลและสายพันธุ์ ได้แก่ Placoolithus tumiaolingensis
อย่างไรก็ดี จางยังคงเดินหน้าค้นหาไข่ไดโนเสาร์ชนิดใหม่ๆ โดยแต่ละปีจางเก็บรวบรวมตัวอย่างเปลือกไข่ใหม่จากพื้นที่เทือกเขาชิงหลงราว 100 รายการ และนำมาวิเคราะห์หารายละเอียดที่ห้องปฏิบัติการในกรุงปักกิ่ง
ส่วนไข่ไดโนเสาร์ของการศึกษาครั้งนี้มีลักษณะแบนกลม ไม่ได้มีทรงกลม วงรี หรือรูปไข่ตามแบบฉบับ ทั้งยังมีเปลือกหนาและโครงสร้างสองชั้น ซึ่งชั้นในเป็นรูพรุน
เนื่องจากเปลือกไข่ทำจากแร่ธาตุคาร์บอเนตเป็นส่วนใหญ่ คณะนักวิจัยเชื่อว่าควรใช้วิธีการหาอายุนี้กับไข่ไดโนเสาร์จากพื้นที่อื่นๆ และไข่ของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ไดโนเสาร์ รวมถึงฟอสซิลอื่นๆ หรือหินและแร่ธาตุรอบฟอสซิล ซึ่งจะมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเส้นเวลาของวิวัฒนาการ
อนึ่ง การศึกษาครั้งนี้ได้ดึงดูดความสนใจเป็นวงกว้างภายในชุมชนการวิจัยทางบรรพชีวินวิทยา และผลการศึกษาถูกเผยแพร่ในวารสารชั้นนำอย่างเนเจอร์ (Nature) และไซเอนซ์ (Science)
กันตูปาลลี ปราสาด นักบรรพชีวินวิทยาประจำมหาวิทยาลัยเดลีในกรุงนิวเดลี กล่าวว่าวิธีการหาอายุโดยตรงจะขยายกิ่งก้านสาขาของบรรพชีวินวิทยา และจะขจัดความคลุมเครือที่เกี่ยวกับอายุของฟอสซิลจำนวนมาก
ทว่าซูซานนาห์ เมดเมนต์ นักบรรพชีวินวิทยาประจำพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในกรุงลอนดอน กล่าวว่าการศึกษาครั้งนี้ไม่ได้พิจารณาการเปลี่ยนแปลงระหว่างกระบวนการฝังตัวและกลายเป็นฟอสซิล เช่น การก่อตัวใหม่ (diagenesis) อาจเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบตั้งต้น
เมดเมนต์กล่าวว่าความพยายามหาอายุฟอสซิลโดยตรงต้องแสดงให้เห็นว่ากระบวนการก่อตัวใหม่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแร่ธาตุ เพราะอาจส่งผลให้เกิดการประมาณการอายุผิดพลาด
สำหรับข้อจำกัดของการศึกษาใหม่นี้ จ้าวยอมรับว่าเป็นการสำรวจเสียส่วนใหญ่ ยังขาดแคลนการเปรียบเทียบ โดยการศึกษานี้เก็บตัวอย่างฟอสซิลเปลือกไข่เพียงชิ้นเดียวจากส่วนล่างของชั้นหินหนา 15 เมตร และคณะนักวิจัยยังไม่ได้ตรวจสอบจากชั้นหินอื่นๆ หรือจากแอ่งอื่นๆ ใกล้เทือกเขาชิงหลง
แต่จ้าวเชื่อว่าการศึกษานี้มีประโยชน์ เนื่องจากบรรดาพื้นที่ค้นพบไข่ไดโนเสาร์มากกว่า 200 แห่งทั่วโลก มีเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถหาอายุได้อย่างแม่นยำ โดยหากวิธีการนี้ถูกประยุกต์ใช้ในวงกว้าง อาจช่วยสร้างกรอบลำดับเวลาสำหรับทำความเข้าใจพฤติกรรมสืบพันธุ์ของไดโนเสาร์ และมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโลกโบราณ รวมถึงปริศนาวิวัฒนาการและการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์
ภาพและที่มาจาก : สำนักข่าวซินหัว

แม่เด็กนักเรียน ป.1 แฉถูกญาติครูฟุตเหล็กขู่ ฟังแล้วได้แต่ตกใจ

3 ราศี ดวงสัปดาห์นี้ มีข่าวดีเรื่องการงาน และเรื่องที่ควรระวัง

ไต้ฝุ่นแมตโม ถล่มไห่หนาน-กว่างตง เผยภาพความเสียหายหลังพายุลูกที่ 21 ขึ้นฝั่ง

CP เตือนภัยมิจฉาชีพนำภาพ "ศุภชัย เจียรวนนท์" ตัดต่อคลิปปลอม หลอกลงทุน
