ขึ้นดอยอุตรดิตถ์ ถอดรหัสทุเรียน GI หลิน-หลง ลับแล ต่างกันยังไงนะ

ตามรอยราชาผลไม้ไทย EP.2 : "ทุเรียนลับแล บนภูเขาอุตรดิตถ์" หลินลับแล–หลงลับแล ทุเรียนภูเขาอุตรดิตถ์ เนื้อหนึบ รสละมุน เม็ดเล็ก แตกต่างไม่เหมือนใคร
จากปฐมบทแห่งคุณภาพที่ปราจีนบุรี วันนี้ "ตามรอยราชาผลไม้ไทย" พาเดินทางขึ้นเหนือ สู่อาณาจักรขุนเขาและตำนาน จังหวัดอุตรดิตถ์ ดินแดนที่กว่า 95% ของพื้นที่ปลูกทุเรียน อยู่บนภูเขาสูงและลาดชัน
คำถามคือ การปลูกทุเรียนบนดอยแบบนี้ มันเป็นความท้าทาย หรือสร้างรหัสลับพิเศษให้ทุเรียน จนกลายเป็น ทุเรียน GI ระดับประเทศ อย่าง "หลงลับแล" และ "หลินลับแล"
บอกเลยว่า การมาเยือนอุตรดิตถ์ครั้งนี้ จะพาทุกคนถอดรหัสลับของทุเรียนสองสายพันธุ์นี้ ว่าทำไมถึงโดดเด่นไม่เหมือนที่อื่น
ความท้าทายของการปลูกทุเรียนบนภูเขา
"ปกติทุเรียนจะปลูกบนพื้นที่ราบ แต่ที่นี่ปลูกบนภูเขาและที่ลาดชัน"
คุณสุวรรณภา เกษตรกรสวนตาสมาน เล่าให้ฟังว่า การปลูกทุเรียนบนดอยมีข้อดีคือ เนื้อทุเรียนจะแห้งเพราะดินไม่อุ้มน้ำ แต่ข้อเสียคือ การเข้าถึงสวนและจัดการดูแลทำได้ยาก เกษตรกรต้องใช้ความระมัดระวังในการตัดหญ้า ปลูก และเก็บเกี่ยว
คุณมธุรส นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรเสริมว่า การบริหารจัดการสวนบนภูเขาท้าทายกว่าปกติ เพราะการเข้าถึงสวนทำได้ยาก แต่ก็เป็นโอกาสให้ได้ทุเรียนคุณภาพสูง
ดินและสภาพอากาศคือกุญแจสำคัญ
ทุเรียนอุตรดิตถ์ปลูกบน ดินแดงผุพังจากหินผา มีความโปร่ง ร่วนซุย ไม่ขังน้ำ และอุดมด้วยธาตุอาหารสำคัญ เช่น โพแทสเซียม กำมะถัน และแมกนีเซียม ส่งผลให้ทุเรียน เนื้อแห้งละเอียด กลิ่นไม่ฉุน เป็นเอกลักษณ์
สภาพอากาศบนดอยก็เป็นปัจจัยสำคัญ กลางวันแดดจัด ลมพัดตลอดเวลา กลางคืนอุณหภูมิอาจต่ำถึง 10 องศา พิธีกรถามถึงผลกระทบต่อทุเรียน คุณสุวรรณภาอธิบายว่า ต้องให้ปุ๋ยทางใบและธาตุอาหารเสริมบางชนิด เพื่อให้ต้นทุเรียนแข็งแรงต่อสู้กับอากาศหนาว
จุดเริ่มต้นของหลินลับแลและหลงลับแล
ย้อนกลับไปปี 2520 กรมส่งเสริมการเกษตรและจังหวัดอุตรดิตถ์จัดประกวดทุเรียนพันธุ์ดี หนึ่งในนั้นคือ นางหลง อุปละ ส่งทุเรียนเมล็ด "อีเหลืองหัวห้วย" เข้าประกวดและชนะเลิศ
ส่วน นายหลิน ปานลาด ส่งพันธุ์ "ผามูบ 1" ได้รางวัลขวัญใจมหาชน ทั้งสองได้รับการรับรองพันธุ์ในปี 2521 และต่อมาขึ้นทะเบียนเป็น GI อุตรดิตถ์
คุณสุวรรณภาและคุณมธุรสบอกว่า การขึ้นทะเบียน GI ส่งผลดีต่อเกษตรกรอย่างมาก ทั้งการพัฒนาคุณภาพผลผลิต การประชาสัมพันธ์สู่ตลาด และอาจต่อยอดส่งออกเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
การแยกแยะหลินลับแล vs หลงลับแล
หลงลับแล : ผลทรงกลม พูเต็ม 5 พู หนามปลายแหลมตรง
หลินลับแล : ผลคล้ายมะเฟือง หนามแหลมโค้งเล็กน้อย
ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว
หลงลับแล : 110 วันหลังดอกบาน
หลินลับแล : 105–110 วัน
พิธีกรลองชิมและเล่าว่า เนื้อหนึบ ยืด ละมุน ไม่มีเม็ด รสไม่หวานโดด เหมาะสำหรับมือใหม่ ส่วนหลินจะหวานและครีมมี่กว่า เหมาะสำหรับสายหวาน
บทเรียนจากทุเรียนบนดอย
การเดินทางครั้งนี้สอนให้รู้ว่า ราชาผลไม้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่พื้นที่ราบ บนภูเขาสูงที่อุตรดิตถ์ก็สามารถสร้างทุเรียนเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครได้
EP หน้า จะไปต่อที่ภาคอีสาน จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อค้นหาเรื่องราวราชาผลไม้อีกบทหนึ่ง

ปวดหลังเรื้อรัง ทำอย่างไรดี เปิด 5 วิธีแก้ปัญหาและปรับพฤติกรรมให้หายขาด

ทำงานหนักแต่ไม่เสร็จ เปิด 5 เทคนิคจัดการเวลาให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้น

รู้ทัน ภัยไซเบอร์ ใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลอย่างไร ให้ปลอดภัยจาก มิจฉาชีพ

ด.ช. 6 ขวบ เดินเล่นชายหาด เผลอเหยียบปลาตาย ต้องรีบพาเข้าห้อง ICU
