นมไม่ใช่ยาวิเศษ แพทย์เตือน ดื่มมากเกินไปอาจเสี่ยงสุขภาพ

แม้นมจะเป็นแหล่งแคลเซียมและโปรตีนสำคัญ แต่การบริโภคมากเกินไปหรือไม่เหมาะสมกับวัย อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ แพทย์แนะเลือกดื่มให้เหมาะกับวัยและภาวะร่างกาย
ดื่มนมให้พอดี วัยไหนควรดื่มอย่างไร?
นมเป็นหนึ่งในอาหารหลักที่นิยมบริโภคกันทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่มีการรณรงค์ให้เด็กดื่มนมเพื่อเสริมสร้างสุขภาพมานานหลายสิบปี อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและสุขภาพ ออกมาเตือนว่า “นมแม้จะดี แต่ก็ไม่ควรดื่มมากเกินไป และควรเลือกดื่มให้เหมาะสมตามวัย”
5 ช่วงวัยกับคำแนะนำในการดื่มนม
1.วัยเด็กเล็ก (1-5 ปี):
เป็นช่วงที่ร่างกายต้องการแคลเซียมและไขมันเพื่อพัฒนากระดูก สมอง และระบบประสาท เด็กวัยนี้ควรดื่มนมวันละประมาณ 1-2 แก้ว (250-500 มล.) แต่หากเด็กมีปัญหาแพ้นมวัว ควรปรึกษากุมารแพทย์ เพื่อเปลี่ยนเป็นนมสูตรพิเศษหรือนมถั่วเหลืองที่เสริมแคลเซียม
2.วัยเรียน (6-12 ปี):
ร่างกายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ต้องการพลังงานและแคลเซียมอย่างมาก ควรดื่มนมวันละ 2 แก้ว โดยเลือกนมสดหรือนมพาสเจอไรซ์ไขมันต่ำ และเน้นอาหารหลากหลายประกอบกัน
3.วัยรุ่น (13-19 ปี):
เป็นช่วงสะสมมวลกระดูกสูงสุดในชีวิต หากขาดแคลเซียมจะเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนในอนาคต ควรดื่มนมวันละ 1-2 แก้ว โดยเลือกสูตรพร่องมันเนย เพื่อลดไขมันสะสมในร่างกาย
4.วัยผู้ใหญ่ (20-50 ปี):
คนส่วนใหญ่มักเริ่มมีกิจกรรมที่เผาผลาญพลังงานน้อยลง แต่ร่างกายยังต้องการแคลเซียมสำหรับซ่อมแซมกระดูกและกล้ามเนื้อ แนะนำให้ดื่มนมวันละ 1 แก้วก็เพียงพอ หากได้รับแคลเซียมจากอาหารอื่น เช่น ผักใบเขียว หรือปลาเล็กปลาน้อย
5.ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป):
เป็นวัยที่เสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน กล้ามเนื้อเสื่อม และขาดโปรตีน ควรดื่มนมสูตรเฉพาะสำหรับผู้สูงวัยที่มีวิตามิน D และแคลเซียมสูง โดยควรเลือกนมพร่องมันเนยหรือไขมันต่ำเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องไขมันในเลือด
ผลเสียของการดื่มนมมากเกินไป
- แม้นมจะมีสารอาหารหลายชนิด แต่หากดื่มมากเกินไป หรือดื่มผิดประเภท ก็อาจเกิดผลเสีย เช่น
- ท้องอืด ท้องเสีย: โดยเฉพาะในผู้ที่แพ้แลคโตสในนมวัว
- อ้วน: หากเป็นนมรสหวานหรือมีไขมันสูง
- แคลเซียมเกิน: อาจไปรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็ก และเพิ่มความเสี่ยงนิ่วในไต
- ภูมิแพ้นม: พบได้ในเด็กบางคน หากมีอาการผื่น คัน หรือหายใจหอบ ควรหยุดดื่มและพบแพทย์ทันที
แพทย์แนะ:
ผู้บริโภคควรพิจารณารูปแบบของนมที่เหมาะสม เช่น นมถั่วเหลือง, นมอัลมอนด์ หรือผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ หากมีปัญหาโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือโรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มนมเป็นประจำ
สรุป:
“นมไม่ใช่สิ่งที่ต้องดื่มทุกคนทุกวัย และไม่ควรดื่มเกินความจำเป็น” การเลือกรับประทานอาหารที่สมดุล ได้แคลเซียมจากแหล่งอื่น และออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยให้กระดูกแข็งแรงและสุขภาพดีโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งแต่นมเสมอไป