เผยผลวิจัยจุฬาฯ พบหมา-แมวไทยติดโควิดจากเจ้าของ

08 พฤศจิกายน 2564

หมอธีระ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยผลวิจัยพบ หมา-แมว ไทยติดโควิดในบ้านที่เจ้าของติดเชื้อ แนะผู้ป่วยเลี่ยงการคลุกคลีสัตว์เลี้ยงในบ้าน

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 64  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กอ้างอิงถึงงานวิจัยจากทีมคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กรณีพบการติดเชื้อโควิด-19 ของสุนัขและแมวในไทย โดยระบุว่า ล่าสุดมีงานวิจัยจากทีมคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ รายงานในวารสารวิชาการเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตรวจพบสุนัข 3 ตัวจากการตรวจ 35 ตัว และแมว 1 ตัวจากการตรวจ 9 ตัว ติดเชื้อโควิด-19 โดยเป็นทั้งหมดที่ตรวจนั้นสัตว์เลี้ยงในครัวเรือนที่มีเจ้าของติดเชื้อโควิด-19 สุนัข 1 ตัวมีอาการเล็กน้อย ส่วนตัวอื่นๆ ที่ติดเชื้อนั้นไม่มีอาการ

 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

ข้อมูลข้างต้นนี้ช่วยกระตุ้นให้เราตระหนักถึงความสำคัญว่า คนที่ติดเชื้อจะสามารถถ่ายทอดไปยังสัตว์เลี้ยงได้ ดังนั้นหากมีอาการไม่สบาย นอกจากควรจะแยกตัวออกจากสมาชิกในครอบครัวแล้ว ยังควรหลีกเลี่ยงการไปคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงในบ้าน


ความรู้ปัจจุบัน เราทราบดีว่ามีการติดเชื้อจากคนสู่สัตว์ได้มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว ตัวมิ้งค์ เฟอร์เร่ท์ อ๊อตเตอร์ เสือ กวาง ฯลฯ ส่วนการถ่ายทอดจากสัตว์สู่คนนั้น แม้ตอนนี้เชื่อว่าอาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการแพร่ระบาด แต่กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะมีรายงานเกี่ยวกับการติดเชื้อจากตัวมิ้งค์ไปสู่คนจากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในอเมริกา เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ฯลฯ

ผลวิจัยจุฬาฯ พบหมา-แมวไทยติดโควิดจากเจ้าของ

-ประกาศคำสั่งปิด 7 สถานที่เสี่ยง งดเข้าไปในพื้นที่ หลังพบยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง
-ผู้ประกันตน ม.40 ติดเชื้อโควิด เช็คสิทธิประกันสังคม จะได้รับอะไรบ้าง
-ครูสาวทนไม่ไหว พ่อต้องเข้ารพ. รักษาไตฉีก เพราะถนนพังเป็นหลุม

การไม่ไปคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงเวลาเราไม่สบาย นอกจากจะช่วยป้องกันสัตว์ไม่ให้ติดเชื้อ และไม่เป็นตัวนำพาเชื้อโรคไปยังคนอื่นในบ้านที่จะเข้ามาสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงได้ด้วย ที่หยิบยกเรื่องนี้มาเล่าให้รับทราบกัน เพราะปัจจุบันไทยเรามีจำนวนคนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันจำนวนมาก โอกาสถ่ายทอดไปยังสัตว์ย่อมมีสูงขึ้นกว่าสมัยระลอกแรก ผลลัพธ์ของการควบคุมการระบาดที่เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนเท่านั้น

 

ขอบคุณ FB : Thira Woratanarat 

 ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews