หมอนิธิพัฒน์ ชี้ นาทีนี้ ปชช.ต้องพึ่งตัวเอง หวังรอฝ่ายนโยบายคงไม่ได้เรื่อง

14 กันยายน 2564

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ ชี้ นาทีนี้ ประชาชนต้องพึ่งตัวเอง หวังรอฝ่ายนโยบายคงไม่ได้เรื่อง

วันที่  14 กันยายน 2564 รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้... คำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ทั้งจากคนใกล้ชิด ลูกศิษย์ลูกหา และจากเหล่าสื่อมวลชน “สถานการณ์โควิดในบ้านเราต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร”

ห่างหายกันไปครบสองสัปดาห์พอดิบพอดีจนมีคนถามถึง ระหว่างนี้ไม่ได้มีปัญหาทั้งทางกาย (ยังรักษาตัวให้รอดปลอดโควิดและโรคอื่นได้ดีอยู่) รวมถึงปัญหาทางใจที่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเจ้าโควิดในหลากหลายมิติ ในส่วนหลังนี้อาจมีบ้างที่ยังทำใจไม่ค่อยได้ว่า ทำไมฝ่ายนโยบายปล่อยให้สถานการณ์บานปลายใหญ่โต กว่าจะงัดไม้เด็ดการล็อกดาวน์มาใช้ ก็สูญเสียออกไปแล้วในวงกว้าง บัดนี้เพิ่งเริ่มต้นจะควบคุมสถานการณ์ได้ทีละเล็กทีละน้อย แต่ช่วงเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กลับอยู่ได้ไม่นานนัก ต้องมาย่างเข้าสู่ช่วงเพ่งจับตารอประเมินผลจากการผ่อนปรนมาตรการเข้ม ที่ฝ่ายนโยบายได้ตัดสินใจดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เมื่อต้นเดือน

หมอนิธิพัฒน์ ชี้ นาทีนี้ ปชช.ต้องพึ่งตัวเอง

นับจากนี้ไปหวังว่าตัวเลขผู้ป่วยอาการรุนแรงและผู้ป่วยเสียชีวิต จะเป็นสัดส่วนที่น้อยลงเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ซึ่งกำลังลดลงช้าๆ ส่วนหนึ่งคงเป็นผลจากการฉีดวัคซีนเข็มแรกไปได้แล้วราว 40%และเข็มสองราว 12% โดยสัดส่วนในกลุ่มเปราะบางได้รับการฉีดไปแล้วเกินครึ่ง อีกส่วนหนึ่งคงเป็นภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติในบางพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก หากโชคดีไม่มีเชื้อกลายพันธุ์ในบ้านเราเองมาเพ่นพ่านเสียก่อน การระบาดระลอกใหม่คงถูกยืดไปให้พอหายใจหายคอคล่องสักพักใหญ่

ในส่วนของภาคการแพทย์ที่งานโควิดโดยรวมเริ่มเพลาลงบ้าง (ยกเว้นในบางพื้นที่ยังหนักอยู่มาก) ที่ยังตึงมือกันอยู่คือผู้ป่วยอาการรุนแรงซึ่งตกค้างอยู่ เนื่องจากในครั้งนี้เหตุเกิดกับกลุ่มเปราะบางเสียส่วนใหญ่ จึงต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานกว่าและผลการรักษาก็ด้อยกว่าครั้งระลอกแรกและระลอกสอง ด้านของความพยายามในการรื้อฟื้นการดูแลรักษาสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิด ต้องทำกันอย่างรอบคอบไม่ผลีผลามเพราะกลัวศัตรูกลับมาตีตลบใหม่ ครั้นจะหวังพึ่งฝ่ายนโยบายคงไม่ได้เรื่อง เหตุมาจากการถอดใจโยนผ้าไม่ทำหน้าที่ควบคุมโรคอย่างหนักมือเหมือนก่อน ปล่อยให้ฝ่ายประชาชนต้องระวังตัวกันเองขั้นสูงสุดตามสำนึก ดังตัวอย่างการเคร่งครัดใส่หน้ากากในที่สาธารณะ

หมอนิธิพัฒน์ ชี้ นาทีนี้ ปชช.ต้องพึ่งตัวเอง

ผลพวงในระยะยาวของโควิดนอกจากทำให้เศรษฐกิจชะงักงัน การศึกษาสะดุด แล้วยังทำให้ทรัพยากรมนุษย์มีสภาวะสุขภาพที่ถดถอย ในการสำรวจทางอินเตอร์เน็ตโดยหน่วยงานกิจการสาธารณะ ในอเมริกา เผยแพร่โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคใน Morbidity and Mortality Weekly Report, September 10, 2021 พบว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้นทั้งคนที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อในช่วงเวลาเดียวกัน สำหรับคนที่ติดเชื้อจะเด่นไปที่อาการทางกาย คือ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เมื่อยล้าง่ายหลังออกแรง ไอ เจ็บหน้าอก การรับกลิ่นและรสผิดปกติ และ เจ็บคอ โดยที่น่าแปลกใจคือคนที่ไม่ติดเชื้อเองกลับมีอาการเด่นกว่าทางด้านจิตใจ ได้แก่ นอนหลับผิดปกติ ปวดข้อและกล้ามเนื้อ และ อารมณ์เปลี่ยนแปลง แสดงว่าโควิดรุกล้ำสุขภาพจิตคนที่ไม่ป่วยให้รวนไปด้วยเช่นกัน

หลังจากฝังใจหนุนทีมนอกสายตาอย่างอิตาลีจนผงาดเหนือทวีปยุโรปสำเร็จมาแล้ว ฤดูกาลนี้ขอเทใจอีกครั้งส่งไปหนุนทีมผีแดง หลังได้ตัว CR7 กลับมาเสริมทัพกองหน้า ในถิ่นเก่าที่เคยสร้างชื่อให้เจ้าตัวเมื่อครั้งวัยยังละอ่อน แฟนบอลคอเดียวกันเตรียมเฮและฉลองชัยล่วงหน้าร่วมกันได้ ระหว่างนี้ขอหลีกลี้ชั่วคราวเพื่อรื้อค้นตู้หนังสือเก่า ซุ่มฝึกวิทยายุทธ์รับมือศึกโควิดที่มีแนวโน้มยืดเยื้อยาวนาน ประเดิมด้วย“กระบี่ไร้เทียมทาน” ที่ตัวเอกฮุ้นป่วยเอี้ยง ต้องเผชิญทุกข์เหนือทุกข์ ค่อยสำเร็จเป็นคนเหนือคน #เดือนกันยาก็อย่าเพิ่งออกบ้าน

หมอนิธิพัฒน์ ชี้ นาทีนี้ ปชช.ต้องพึ่งตัวเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews