กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตให้ความสนใจไม่น้อย เมื่อลูกชายนางนวรัตน์ วัย 75 ปี ได้ร้องเรียนว่าแม่ของเขาถูกเพื่อนบ้านทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออก ซึ่งเบื้องต้นพบว่า หญิงชราและเพื่อนบ้านมีปัญหากันมายาวนานกว่า 6 ปีแล้ว หลังเพื่อนบ้านซ่อมรถเสียงดังเนื่องจากบ้านเป็นอู่ซ่อมรถ เมื่อไปเตือนก็จะทะเลาะกันตลอด
เกี่ยวกับเรื่องนี้นางนวรัตน์ อายุ 75 ปี ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีที่ถูกเพื่อนบ้านทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ ซึ่งหลังสอบปากคำแล้วตำรวจได้ส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว และเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็พบว่าคนก่อเหตุคือเพื่อนบ้านจริง และออกหมายเรียกเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทว่าด้าน นางรุจรี อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านของอาม่าวัย 75 ได้เล่าในมุมของตนเองว่า ฝ่ายอาม่าเป็นคนที่ชอบมาหาเรื่องที่ร้านตนบ่อยมาก บ้างก็มาเปิดน้ำทิ้งไว บางครั้งก็เอาขยะมาโยนทิ้ง ทั้งยังให้เอาป้ายร้านออกและเอาหลังคาออก และห้ามจอดรถ ซึ่งคนที่ร้านไม่ค่อยมีใครยุ่งกับหญิงชราคนดังกล่าว
ทั้งนี้เวลาทำอาหาร อาม่าก็จะออกมาด่าและบอกไม่ให้ทำ จึงทำให้เจ้าของเดิมย้ายออกไป อีกทั้งบางครั้งเวลาอาม่าอารมณ์ไม่ดีจัดๆ อาม่าก็จะมาด่าตนยันบรรพบุรุษ และสิ่งที่หญิงชราทำก็คือจะใช้วิธีการร้องเรียนอย่างเดียว ซึ่งอาม่ามีพฤติกรรมที่ชอบหาเรื่องคนอื่นและไม่พึ่งพาอาศัยกันมีแต่จะหาเรื่องทะเลาะ บางครั้งเรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โต
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่าอาม่าเอาขยะมาทิ้งหน้าร้านและฉีกกระดาษเพื่อให้กระจัดกระจาย ซึ่งตนเคยพูดคุยกับอาม่าแล้วว่าถ้าทำอีกจะเข้าแจ้งความ แต่ทางลูกสาวและลูกชายของอาม่าไม่เคยสนใจ จนทะเลาะกับหญิงชราคนดังกล่าวบ่อยมาก แถมบางครั้งอาม่าเข้าแจ้งความในเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนทำให้เรื่องใหญ่โต ซึ่งปกติไม่ค่อยมีใครยุ่งกับอาม่าอยู่แล้วเพราะรู้ว่านิสัยอาม่าเป็นยังไง
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ลงมาตรวจสอบดูพื้นที่และความเสียหายที่อาม่าได้รับ และจะให้อาม่าไปแจ้งกับทางเทศบาลกับเรื่องเสียงที่รบกวน เบื้องต้นสภาพจิตใจของอาม่าเข้มแข็ง และมองเป็นเรื่องปกติเพราะเคยร้องเรียนไปหลายรอบแล้ว ซึ่งหน่วยงานอยากให้ทางเทศบาลลงพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการส่งเสียงดังต่อไป