เตือนภัย จ้องจอเกิน 4 ชั่วโมงต่อวัน เสี่ยงอันตรายตาล้า

มูลนิธิหมอชาวบ้านเตือนภัยอันตรายจากการจ้องจอนานเกิน 4 ชั่วโมง/วัน ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการ "ตาล้า" และ "ปวดเบ้าตา" โดยแนะนำ 3 วิธีง่ายๆ
เตือนภัยจากมูลนิธิหมอชาวบ้าน: อาการ "ตาล้า" หรือ "ตาเมื่อย" เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ดวงตาของเราเริ่มมีปัญหาจากการใช้งานที่มากเกินไป โดยเฉพาะการจ้องจอมือถือและคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดหัวเรื้อรังและตาแห้งรุนแรง หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป
มูลนิธิหมอชาวบ้านได้ออกมาโพสต์เตือนถึงผลกระทบจากการจ้องหน้าจอดิจิทัลเกิน 4 ชั่วโมงต่อวัน ที่ทำให้เกิดอาการตาล้าและปวดเบ้าตา ซึ่งพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในวัยทำงานที่มักต้องใช้สายตากับหน้าจอในระยะเวลานาน
การใช้สายตาอย่างไม่ถูกวิธีสามารถทำให้กล้ามเนื้อตาเกร็งตัวและทำให้เกิดความเมื่อยล้า หากปล่อยทิ้งไว้นาน อาจส่งผลต่อการมองเห็นในระยะยาวได้ ทางมูลนิธิฯ จึงแนะนำให้ปฏิบัติตาม 3 กฎเหล็ก เพื่อช่วยบรรเทาอาการตาล้า ดังนี้:
ใช้กฎ 20-20-20: ทุกๆ 20 นาทีที่จ้องหน้าจอ ให้ละสายตาออกไปมองวัตถุที่อยู่ไกลประมาณ 6 เมตร (20 ฟุต) เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อตา
 
        
 
บริหารความชุ่มชื้นตาด้วยการกะพริบตา: ฝึกกะพริบตาอย่างตั้งใจช้าๆ ทุกๆ 5 นาที หรือเมื่อรู้สึกแสบตา เพื่อให้เปลือกตาปิดสนิทและผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา
ปรับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน: เช่น การวางหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือให้ห่างจากตาประมาณ 30-40 เซนติเมตร การลดความสว่างของหน้าจอลงให้เหมาะสมกับแสงในห้อง และการใช้โทรศัพท์ในที่สว่าง ไม่ควรใช้ในที่มืดสนิท เพราะจะทำให้รูม่านตาขยายและรับแสงมากเกินไป
การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้สามารถช่วยลดอาการตาล้า และปกป้องสุขภาพสายตาของเราในระยะยาว
 
 
        
แหล่งที่มาอ้างอิง
มูลนิธิหมอชาวบ้าน

ปิดตำนาน "จั่นเจาที่หล่อที่สุด" เสียชีวิตกะทันหันในวัย 59 ปี

4 ราศี เดือนพฤศจิกายนนี้ มีเกณฑ์ดีในเรื่องโชคลาภ มีคำแนะนำ

พี่ยึดมือถือน้องสาวทันที รู้ความจริงที่มารอยแผลปริศนา

สันติ ปิยะทัต เดินหน้า Quick Big Win คุ้มครองผู้บริโภค ผนึก 5 แพลตฟอร์มออนไลน์
















