หมอเผย กินอาหารสีสดใส เสริมสารต้านอนุมูลอิสระ ลดเสี่ยงโรคร้าย

อาหารที่มีสีสันหลากหลาย ไม่ใช่แค่ทำให้จานดูน่ากิน แต่ยังซ่อนสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย หมอหลายคนแนะนำให้ “กินรุ้งบนจาน”
การเลือกรับประทานอาหารไม่ใช่แค่ปริมาณ แต่ “สีสันบนจาน” มีความหมายทางโภชนาการมากกว่าที่คิด เพราะผักและผลไม้แต่ละสี มีสารอาหารเฉพาะที่ช่วยบำรุงร่างกายต่างกันออกไป
แพทย์และนักโภชนาการมักใช้คำว่า “กินรุ้งบนจาน” (Eat the Rainbow) เพื่อให้เข้าใจง่าย ว่าเราควรเลือกกินผักและผลไม้หลากหลายสีในแต่ละวัน เช่น
สีเขียว → มีคลอโรฟิลล์, วิตามินเค, โฟเลต ช่วยบำรุงเลือดและกระดูก (เช่น คะน้า บรอกโคลี ผักโขม)
สีแดง → อุดมไปด้วยไลโคปีน (Lycopene) และแอนโทไซยานิน ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็ง (เช่น มะเขือเทศ แตงโม สตรอว์เบอร์รี)
สีส้ม–เหลือง → มีเบต้าแคโรทีน วิตามินเอและซี ช่วยบำรุงสายตาและเสริมภูมิคุ้มกัน (เช่น แครอต ฟักทอง มะม่วง ส้ม)
สีม่วง–น้ำเงิน → มีแอนโทไซยานินสูง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัยและบำรุงสมอง (เช่น บลูเบอร์รี มะเขือม่วง กะหล่ำปลีม่วง)
สีขาว–น้ำตาลอ่อน → มีสารอัลลิซิน (Allicin) และโพแทสเซียม ช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต (เช่น กระเทียม หอมหัวใหญ่ เห็ด กล้วย)
การกินผักผลไม้ให้ครบหลายสีในแต่ละวัน จึงไม่เพียงทำให้ได้สารอาหารครบถ้วน แต่ยังเป็นการเพิ่ม สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ลดการอักเสบ และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ
หมอหลายคนจึงมักบอกกับผู้ป่วยว่า “จงกินให้เหมือน彩虹 – กินรุ้งบนจาน” เพราะสุขภาพดีเริ่มต้นที่การเลือกวัตถุดิบที่มีสีสันจากธรรมชาติ
แหล่งที่มาอ้างอิง
1.Harvard T.H. Chan School of Public Health. Eating the Rainbow: Why fruits and vegetables of different colors are good for health.
2.Mayo Clinic. Nutrition and healthy eating: Antioxidants.

หายากสุด ๆ ตุรกีพบ เข็มกลัดทองคำ และ ชิ้นหยก อายุ 4,500 ปี

ยุทธการ "หมูหัน" 1 แสนตัว แผนเด็ดพยุงราคาหมู ต่อลมหายใจเกษตรกรไทย

ศรีญาดา ชี้แจง เปล่าตำหนิ รมว.กต. แค่ไม่อยากให้ไทยตกเป็นจำเลย

เปิดราศีดวงเด่น ประจำเดือนตุลาคม 2568 มีเพียงไม่กี่ราศีเท่านั้น
