อย่าหาว่าตลก! นอนน้ำลายไหล สัญญาณอันตรายจากโรคร้ายที่ซ่อนอยู่

สงสัยไหมทำไมเราถึง นอนน้ำลายไหล? เปิดสาเหตุภาวะ น้ำลายไหลมากผิดปกติ ที่อาจไม่ใช่แค่เรื่องท่านอน แต่อาจเป็นสัญญาณเตือน โรคพาร์กินสัน
เคยเป็นไหมครับ? ตื่นมาพร้อมกับรอยเปียกบนหมอนจนกลายเป็นเรื่องตลกในครอบครัว แต่บอกเลยว่าในมุมมองทางการแพทย์ นอนน้ำลายไหล อาจไม่ใช่เรื่องขำอย่างที่คิด เพราะนี่คือสัญญาณเตือนจากร่างกายที่กำลังบอกว่า "ระบบภายในของคุณกำลังมีปัญหา"
ภาวะน้ำลายไหลมากเกินไป (Sialorrhea) คืออะไร?
ทางสายสุขภาพเรียกสิ่งนี้ว่า Sialorrhea หรือ ภาวะน้ำลายมากเกินไป ครับ ปกติแล้วร่างกายคนเราจะผลิตน้ำลายออกมาประมาณ 1-2 ลิตรต่อวันเพื่อช่วยย่อยและหล่อลื่น แต่ถ้าวันดีคืนดีระบบควบคุมกล้ามเนื้อปากทำงานผิดปกติ หรือมีการผลิตน้ำลายออกมามากจนเกินรับไหว น้ำลายเจ้ากรรมก็จะล้นออกมาจากปากโดยที่เราไม่ตั้งใจนั่นเอง
เช็กด่วน! สัญญาณนี้อาจหมายถึง "โรคร้าย"
หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการ น้ำลายไหลผิดปกติ ต่อเนื่องกันนานๆ อย่าชะล่าใจครับ เพราะข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่ามันอาจเชื่อมโยงกับโรคร้ายแรง ดังนี้:
• โรคทางระบบประสาท: นี่คือกลุ่มที่น่ากังวลที่สุดครับ ตั้งแต่ โรคพาร์กินสัน, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS), โรคอัมพาตสมอง ไปจนถึงภาวะปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการควบคุมการกลืน
• การติดเชื้อในช่องคอ: บางครั้งการที่น้ำลายล้นอาจเกิดจากอาการ คออักเสบ, ไซนัสอักเสบ หรือ ต่อมทอนซิลอักเสบ ที่ทำให้การกลืนเป็นไปอย่างลำบาก
• ปัญหาสุขภาพอื่นๆ: รวมถึง โรคกรดไหลย้อน (GERD) และผลข้างเคียงจากยาบางชนิดที่คุณกำลังรับประทานอยู่
ข้อสังเกต: หากเป็นเด็กเล็กอายุไม่เกิน 2 ปีที่มีอาการ น้ำลายไหล ถือเป็นเรื่องปกติครับ เพราะกล้ามเนื้อปากเขายังพัฒนาไม่เต็มที่ แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่... ต้องเริ่มเอะใจแล้ว!
ท่านอนและอาหาร: ตัวจุดชนวนที่ไม่ควรมองข้าม
นอกจากเรื่องโรคแล้ว ท่านอน ก็สำคัญมากครับ ใครชอบนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ แรงโน้มถ่วงจะทำหน้าที่ "ดึง" น้ำลายให้ออกมาทางมุมปากได้ง่ายกว่าการนอนหงาย รวมไปถึง พฤติกรรมการกิน อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัดหรือน้ำตาลสูง ก็เป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมน้ำลายทำงานหนักเกินจำเป็น
ปล่อยไว้อันตรายแค่ไหน? และรักษาอย่างไรได้บ้าง?
ถ้าปล่อยให้ น้ำลายไหลเรื้อรัง นอกจากเสียบุคลิกแล้ว อาจตามมาด้วย โรคปากอักเสบ หรือรุนแรงถึงขั้นน้ำลายหลุดเข้าไปในปอดจนเกิด โรคปอดบวม ได้เลยครับ
แนวทางการรักษาในปัจจุบันมีหลายระดับ:
• ปรับพฤติกรรมและทำกายภาพ: ฝึกกล้ามเนื้อรอบปากและการกลืน
• การใช้ยา: เพื่อลดการผลิตน้ำลายตามคำแนะนำของแพทย์
• นวัตกรรมใหม่: เช่น การฉีด โบท็อกซ์ (Botox) เข้าที่ต่อมน้ำลายเพื่อลดการทำงาน
• การผ่าตัด: ในกรณีที่รุนแรงและรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล
อาการ นอนน้ำลายไหล เปรียบเสมือนระบบระบายน้ำในบ้านครับ ถ้าท่อตัน (กลืนลำบาก) หรือก๊อกเสีย (น้ำลายเยอะเกิน) น้ำก็ล้น ดังนั้นหากเริ่มรู้สึกว่ามันผิดปกติ อย่าเก็บไว้คนเดียว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด ดีกว่าปล่อยให้ลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ในอนาคตครับ

อย่าหาว่าตลก! นอนน้ำลายไหล สัญญาณอันตรายจากโรคร้ายที่ซ่อนอยู่

เตรียมเสื้อกันหนาวด่วน! เหนือ-อีสานหนาวจัด ใต้ฝนลดแต่คลื่นสูง

ไม่ธรรมดา ทหารรับใช้ชาติ ช่วยยึดพื้นที่เนิน 350 ที่แท้เป็น อดีตนักฟุตบอลไทย

สาวบุกไล่ "ไอซ์ รักชนก" ที่แท้ไม่ธรรมดาเป็นที่ปรึกษานักการเมือง
















