ไลฟ์สไตล์

heading-ไลฟ์สไตล์

ทำความรู้จัก พร้อมประโยชน์ ทำไม แหน ถึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นผักใน EU

15 มิ.ย. 2568 | 18:11 น.
ทำความรู้จัก พร้อมประโยชน์ ทำไม แหน ถึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นผักใน EU

ทำไม แหน ถึงได้ขึ้นทะเบียน “แหน” หรือ “แหนเป็ด” (Duckweed) พืชเล็ก ๆ สีเขียวที่ลอยอยู่เหนือน้ำ ซึ่งมองเห็นได้ทั่วไป กำลังจะกลายเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” ที่ให้แหล่งอาหารที่ให้โปรตีนแก่ประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น

แหน” หรือ “แหนเป็ด” (Duckweed) พืชเล็ก ๆ สีเขียวที่ลอยอยู่เหนือน้ำ ซึ่งมองเห็นได้ทั่วไป กำลังจะกลายเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” ที่ให้แหล่งอาหารที่ให้โปรตีนแก่ประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น โดยที่ใช้พื้นที่และทรัพยากรน้ำในการเพาะปลูกน้อยลง

ทำความรู้จัก ทำไม แหน ถึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นผักใน EU

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Whole Foods Market Inc. เครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตข้ามชาติของสหรัฐ ยกย่องพืชชนิดนี้ให้เป็นหนึ่งในเทรนด์อาหารยอดนิยมประจำปี 2025 ขณะที่บริษัทสตาร์ทอัพ Plantible ประกาศระดมทุน Series B ได้ 30 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำพืชชนิดนี้ไปใช้สร้างแหล่งอาหาร และหวังว่ากลายเป็นอาหารกระแสหลักได้ในอนาคต

บริษัทต่าง ๆ กำลังทำการวิจัยเพื่อหาทางใช้ประโยชน์ ซึ่งพบว่าสามารถใช้งานหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการขายเมล็ดพืชทั้งเมล็ด เพื่อเพิ่มสารอาหารในมื้ออาหารประจำวัน ตลอดจนการดึงคุณสมบัติทางเคมีออกมา เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร หรือทำหน้าที่เป็นตัวประสานแทนไข่ขาวในเมนูต่าง ๆ แต่ด้วยลักษณะของพืชชนิดนี้ที่คล้ายกับวัชพืช จนดูไม่น่ากิน จึงทำให้พวกมันไม่ได้ความนิยมเท่าที่ควร บริษัทต่าง ๆ จึงต้องหาทางทำการตลาดเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

จากการวิจัยพบว่า “แหน” มีโปรตีนสูงถึง 45% ซึ่งสูงกว่าผักชนิดอื่นอย่างเห็นได้ชัด บริษัทสตาร์ทอัพ GreenOnyx ระดมทุนได้ 47 ล้านเหรียญสหรัฐและจำหน่ายแหนภายใต้ชื่อแบรนด์ Wanna Greens กล่าวว่าแหนเป็ดมีธาตุเหล็กมากกว่าผักโขม สังกะสีมากกว่าผักเคลหรือบรอกโคลี และมีโพแทสเซียมมากกว่าผักชนิดอื่น

นอกเหนือจากคุณค่าทางโภชนาการที่มากกว่าผักชนิดอื่นแล้ว แหนยังเป็นพืชที่เติบโตเร็ว โดยเพิ่มปริมาณชีวมวลเป็นสองเท่าทุก 24-72 ชั่วโมง และสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ทั้งสองเหตุผลนี้ทำให้แหนเป็ดสามารถเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่ทั่วโลกนิยมได้ หากมีการทำตลาดอย่างถูกต้อง 

 

ทำความรู้จัก ทำไม แหน ถึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นผักใน EU

“แหนเป็ดเป็นพืชที่น่าทึ่งมาก แต่ปัญหาคือคุณต้องรู้ว่าต้องปลูกเท่าใดถึงจะคุ้มค่ากับการลงทุนเหล่านี้” บรูโน ซาเวียร์ รองผู้อำนวยการของ ศูนย์การวิจัยการเกษตรและอาหาร Cornell Food Venture Center กล่าว

แม้ว่าแหนจะเติบโตในแหล่งน้ำสาธารณะทั่วไป แต่แหนก็สามารถปลูกในระบบปิดได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากสารปนเปื้อน และลดปริมาณน้ำ พลังงาน และพื้นที่ที่จำเป็นสำหรับการปลูกพืช ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตร ทำให้สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นสาเหตุของความเครียดจากน้ำ 85% ทั่วโลก ตามข้อมูลของ BloombergNEF

จากข้อมูลของ โทนี มาร์เทนส์ เฟกินี ผู้ก่อตั้งร่วมของ Plantible ระบุว่า การปลูกแหนใช้น้ำน้อยกว่าถั่วเหลืองถึง 90% และพืชชนิดนี้ให้โปรตีนมากกว่า 8-9 เท่าต่อเอเคอร์ในหนึ่งปี 

Plantible ค้นพบวิธีสกัดโปรตีนจากแหนเป็ด ออกมาเป็นผงสีขาวที่เรียกว่า “RuBisCO” หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “Rubi” โปรตีนทำหน้าที่เป็นตัวประสานเช่นเดียวกับไข่ขาว ในระดับอุตสาหกรรม Rubi ยังสามารถใช้เป็นตัวประสานในเบอร์เกอร์ที่ทำจากพืชได้อีกด้วย ดังนั้นโปรตีนชนิดนี้จึงช่วยลดการพึ่งพาโปรตีนจากสัตว์ได้

Rubi ได้รับการพิจารณาว่าปลอดภัยสำหรับการรับประทานเรียบร้อย โดยในตอนนี้รอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ และส่วนผสมอื่น ๆ ที่สกัดจากแหนก็ได้รับการอนุมัติจากแล้ว นอกจากนี้ Plantible ยังยื่นขอการอนุมัติจากหน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป

ขณะที่ GreenOnyx ใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป โดยการเสนอขายแหนเป็ดที่สามารถกินเปล่า ๆ ได้เลย หรือจะใช้เป็นท็อปปิ้งไอศกรีมก็ได้ หลังจากที่ใช้เวลา 10 ปีในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

นอกจากนี้ยังมีบริษัทจากหลายประเทศที่กำลังพยายามแย่งส่วนแบ่งในตลาดนี้ เช่น Flo Wolffia ในประเทศไทย DryGrow ในสหราชอาณาจักร Rubisco Foods ในเนเธอร์แลนด์ และ microTERRA จากเม็กซิโก 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคนสนใจลงทุนในตลาดนี้อยู่มาก แต่ดูเหมือนว่าตลาดอาจจะยังไม่พร้อม Lemnature AquaFarms บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติอเมริกันที่เพาะพันธุ์แหนเป็ด ได้ยื่นฟ้องล้มละลายในช่วงปลายปี 2023 เนื่องจากไม่สามารถหาตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ได้ ผู้บริโภคยังไม่มั่นใจว่าสิ่งนี้คืออะไร และมีประโยชน์จริงหรือไม่

GreenOnyx บอกว่าการกินแหนเป็ดเหมือนกับการสูดอากาศบริสุทธิ์หลังฝนตก แต่ได้รสชาติที่อร่อย มีเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ มีคุณค่าทางโภชนาการตามที่ระบุไว้ โดยได้นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในร้าน Eleven Madison Park ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ในเมนูตามฤดูกาล

จอช ฮาร์เดน ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารกล่าว เขาช่วยพัฒนาดิปจิ้มด้วยการเพิ่มสมุนไพรและเครื่องปรุงรสเพื่อเพิ่มรสชาติและมีสีสันที่สวยงามยิ่งขึ้น จนผู้คนกล้าที่จะลิ้มลองเมนูจากแหนเป็ด ที่ออกเสิร์ฟในเมนูฤดูใบไม้ผลิปี 2023 

นอกจากจะนำไปเป็นอาหารของคนแล้ว นาซายังขอให้ GreenOnyx ปลูกแหนเป็ดบนสถานีอวกาศนานาชาติ เพื่อตรวจสอบว่าพืชชนิดนี้จะอยู่รอดในอวกาศได้หรือไม่ ซึ่งหากการทดลองนี้สำเร็จ แหนจะกลายเป็นแหล่งอาหารให้พลังงานใหม่สำหรับนักบินอวกาศที่ต้องเดินทางไกลและใช้เวลานาน 

ในปัจจุบัน GreenOnyx ได้วางขายผลิตภัณฑ์แหนเป็ดในร้านค้าปลีกอาหารของอิสราเอล และมีบริการจัดส่งทางไปรษณีย์ด้วย นอกจากนี้บริษัทกำลังพิจารณาสร้างโรงงานในสหรัฐ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทก้าวเข้าใกล้แมสมาร์เก็ต ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักได้เร็วยิ่งขึ้น ส่วน Plantible ยังมองหาการขยายกิจการในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วสหรัฐและภูมิต่าง ๆ ของโลกที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารจำนวนมาก

 

ที่มา: Bloomberg, Economic Times, The Conversation , กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

"โดนัลด์ ทรัมป์" จ่อแบนเพิ่มอีก 36 ประเทศ มีประเทศในอาเซียนโดนด้วย

"โดนัลด์ ทรัมป์" จ่อแบนเพิ่มอีก 36 ประเทศ มีประเทศในอาเซียนโดนด้วย

สาวถูกโจรจี้ แถมโดนทำร้าย 22 ครั้ง แต่คนที่เสียชีวิตพีกยิ่งกว่า

สาวถูกโจรจี้ แถมโดนทำร้าย 22 ครั้ง แต่คนที่เสียชีวิตพีกยิ่งกว่า

ผลหวยออมสิน 16 มิ.ย. 68 ผลสลากออมสินพิเศษ 1ปี งวด 16/06/68

ผลหวยออมสิน 16 มิ.ย. 68 ผลสลากออมสินพิเศษ 1ปี งวด 16/06/68

อาลัย"วานิช ไชยวรรณ" อดีตประธานไทยประกันชีวิต เสียชีวิตในวัย 93 ปี

อาลัย"วานิช ไชยวรรณ" อดีตประธานไทยประกันชีวิต เสียชีวิตในวัย 93 ปี

สีเสื้อต้องเลี่ยง 16 มิถุนายน 2568 สายมูห้ามพลาดมีเพียงสีเดียว

สีเสื้อต้องเลี่ยง 16 มิถุนายน 2568 สายมูห้ามพลาดมีเพียงสีเดียว