มะเขือเทศ เป็นพืชชนิดหนึ่งในตระกูลผลมีเนื้อหลายเมล็ด อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมาย มะเขือเทศขนาดปานกลางจะมีปริมาณวิตามินซีครึ่งหนี่งของส้มโอทั้งผล มะเขือเทศผลหนึ่งจะมีวิตามินเอราว 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีโปแตสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด มะเขือเทศ มีหลายพันธุ์ และวันนี้ทีมข่าว Thainews Online เราจะขอนำเสนอวิธีปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ พืชเศรษฐกิจ ปลูกง่ายรายได้ดี
พันธุ์และเมล็ดพันธุ์ ในประเทศไทยเมล็ดพันธุ์ มะเขือเทศเชอรี่ ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ลูกผสม นำเข้ามาจากต่างประเทศ หาซื้อได้จากบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์เอกชน
อายุการเจริญเติบโตและวงจรชีวิต
มะเขือเทศ เป็นพืชที่ออกดอกได้โดยไม่ต้องรับการกระตุ้นจากอุณหภูมิต่ำและช่วงแสงที่เหมาะสมหรืออาจกล่าวได้ว่า การออกดอกขึ้นกับอายุของมะเขือเทศนั้นเอง
ช่วงเก็บเกี่ยวจะยาวนานประมาณ 1-3 เดือนขึ้นกับสภาพต้น ฤดูกาล การระบาดของโรคแมลงและการปฏิบัติดูแลรักษา
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่มะเขือเทศ
ดิน : ควรเป็นดินร่วน pH ประมาณ 6.5 อินทรียวัตถุมาก ระบายน้ำดี ไม่มีน้ำขังแฉะ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการติดผลคือ อุณหภูมิกลางคืน 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิกลางวัน 28-30 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ดีมะเขือเทศพันธุ์ มะเขือเทศเชอรี่ เป็นพันธุ์ที่ทนร้อนได้ดีพอสมควร แม้อุณหภูมิกลางคืนจะสูงกว่า 22 องศาเซลเซียส ยังสามารถติดผลได้ แต่ถ้าอุณหภูมิกลางวันสูงกว่า 35 องศา
เซลเซียส ดอกมักจะร่วงและติดผลได้ยาก
วิธีปลูก มะเขือเทศเชอรี่
1. การเตรียมดิน
2. การปลูก
หยอดเมล็ดลงแปลงปลูก และเมื่อเมล็ดงอกแล้วจัดระยะระหว่างต้น ห่างกันอย่างน้อย 20-30 เซนติเมตร การปลูกโดยใช้ระยะปลูกแคบ 5- 10 เซนติเมตรทำให้พุ่มแน่น แย่งอาหารกันเอง ใบบังแสง อับลมถ่ายเทอากาศไม่สะดวก เกิดโรคแล้วควบคุมยาก (ในวันเดียวกับที่หยอดเมล็ดลงแปลงปลูก สามารถเตรียมต้นกล้าสำหรับย้ายซ่อมโดยหยอดเมล็ดลงในถาดเพาะ 104 ช่องประมาณ 2-5 เปอร์เซนต์ ของจำนวนต้นที่ปลูกทั้งหมด จะช่วยให้ต้นมะเขือเทศที่ย้ายซ่อมเติบโตทันกัน)
3. การเพิ่มการติดผล
4. ลดการแตกของผล
5. การป้องกันโรคโดยวิธีเขตกรรม
การเก็บเกี่ยว มะเขือเทศเชอรี่
ช่วงเก็บเกี่ยว เมื่อมีอายุประมาณ 60 วัน (หลังย้ายปลูก) เก็บเกี่ยวเมื่ออายุเหมาะสม โดยใช้กรรไกรตัดก้านผลให้เหลือก้านยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ควรเก็บผลที่มีสีเขียวปนเหลืองหรือชมพู
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรุง สีตะธนี 2555 ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม