ถุงลมนิรภัยรถยนต์ หรือ (Air Bag)  มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างไร

26 พฤษภาคม 2565

ถุงลมนิรภัยรถยนต์ หรือ (Air Bag)  มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างไร ในกรณีรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ  (Air Bag) เป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต

ถุงลมนิรภัยรถยนต์ หรือ (Air Bag) ที่เรารู้จักกันดีนั้น มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างไร และมีการทำงานแบบไหน ในกรณีรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ 

ถุงลมนิรภัยรถยนต์ หรือ (Air Bag)  มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างไร

ถุงลมนิรภัย (Air Bag) เป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต มีลักษณะเป็นถุงลมขนาดใหญ่ที่มีความยืดหยุ่น ช่วยป้องกันผู้โดยสารจากการกระแทกกับอุปกรณ์อื่นๆภายในรถยนต์ 

ถุงลมนิรภัยรถยนต์ หรือ (Air Bag)  มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างไร

 Airbags จัดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ทุกรุ่น เริ่มต้นกันที่ 1 ลูก บริเวณพวงมาลัยสำหรับคนขับ ไล่เรียงไปจนถึงระดับ 6-11 ลูก รอบห้องโดยสารสำหรับผู้โดยสารทุกตำแหน่ง เพื่อความปลอดภัย

 

ระบบการทำงานอย่างไร 

เมื่อรถยนต์ชนหรือเกิดการกระแทกที่รุนแรงเกินกว่าที่กำหนด จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกระแทก และทำให้ถุงลมนิรภัยทำงาน พองตัวออกมาอย่างรวดเร็ว โดยแก๊สที่บรรจุภายในนั้นเป็นสารเคมีโซเดียมเอไซด์ (Sodium Azide) เมื่อเกิดการกระแทกจะเกิดปฏิกิริยาสลายตัวกลายเป็นโลหะโซเดียม และแก๊สไนโตรเจน ซึ่งไหลไปบรรจุในถุงลมนิรภัยที่พับอยู่ให้พองตัวขึ้นมา ใช้เวลาเพียง 0.04 วินาที ด้วยความเร็ว 300 กม./ชม. และหลังจากนั้นถุงลมนิรภัยจะค่อยๆ ยุบตัวลง เพื่อป้องกันไม่ให้ถุงลมอัดกับผู้โดยสารนานเกินไป จนทำให้เกิดอันตรายอื่นๆ

ถุงลมนิรภัยรถยนต์ หรือ (Air Bag)  มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างไร

ตำแหน่งของถุงลมนิรภัยจะแตกต่างกันไปตามรถยนต์แต่ละรุ่นและยี่ห้อ

1. ถุงลมด้านหน้า (Front Airbag)จะติดตั้งอยู่บนโครงด้านหน้าขวาและซ้าย ช่วยป้องกันคนขับรถ และคนที่นั่งข้างคนขับ

2. ถุงลมด้านข้าง (Side Airbag) จะติดตั้งอยู่ที่แผงประตูหรือที่ตัวเบาะนั่ง ขึ้นอยู่กับการผลิต โดยมีเซ็นเซอร์เหมือนกับถุงลมด้านหน้า ป้องกันการกระแทกตรงส่วนครึ่งกลาง และด้านล่างของร่างกาย

3. ม่านถุงลม (Curtain Airbag)ช่วยป้องกันการชนจากด้านข้าง ป้องกันไม่ให้ใบหน้าและศีรษะได้รับแรงกระแทก

4. ถุงลมป้องกันเข่าและขา (Knee Airbag) จะติดตั้งอยู่ใต้คอนโซลด้านผู้ขับขี่บริเวณหัวเข่า ช่วยป้องกันขา และหัวเข่า ไม่ให้ไปชนเข้ากับคอนโซล ด้านล่างใต้พวงมาลัย รวมทั้งสะโพก และเข่า

5. ถุงลมที่พื้นใต้เท้า (Carpet Airbag) ทำหน้าที่ช่วยผ่อนแรงบริเวณเท้าที่จะไปกระแทกกับพื้น และผนังกั้นระหว่างห้องโดยสาร และห้องเครื่องให้เบาลง แต่ปัจจุบันจะไม่ค่อยนิยมใช้เท่าไหร่นัก

 

 

สาเหตุที่ทำให้ถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน

- ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต แม้ปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่จะมีระบบเสียงเตือน หากไม่คาดเข็มขัดนิรภัยระบบจะตัดการทำงานของถุงลมนิรภัยทันที

- ระบบการทำงานของเซ็นเซอร์ หากรถยนต์อายุมากๆ อะไหล่มักจะเสื่อม อาจทำให้การทำงานของเซ็นเซอร์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็เป็นไปได้ที่ถุงลมนิรภัยจะไม่ทำงานเมื่อมีการชน

ถุงลมนิรภัยรถยนต์ หรือ (Air Bag)  มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างไร

ในส่วนของการตรวจเช็คการทำงานของถุงลมนิรภัยนั้น โดยเฉพาะรถที่มีอายุการใช้งานมากหน่อย วัสดุอุปกรณ์ย่อมเสื่อมไปบ้างตามกาลเวลา ระบบถุงลมนิรภัยนั้นเมื่อมีบางอย่างผิดปกติ จะมีไฟเตือนถุงลมนิรภัยโชว์ขึ้นมา ให้นำรถรีบเข้าศูนย์บริการตรวจเช็คเป็นการด่วน บางทีอาจจะไม่เสียเพียงแต่ระบบเซนเซอร์ หรือขั้วต่อต่างๆ ของระบบอาจจะมีสิ่งสกปรกเข้าไปอยู่  แต่ถ้าปล่อยให้ไฟโชว์ไว้นาน ๆ แล้วค่อยเข้าเช็ค ปัญหาเล็ก ๆ อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้

 

ขอบคุณที่มาจาก:https://www.autospinn.com/2022/05/airbag-89891

ขอบคุณที่มาจาก:https://www.roojai.com/article/car-parts-and-car-accessories/how-to-check-air-bag-work/