เผยกฎเกณฑ์การขนส่งสัตว์เลี้ยง ในแต่ละสายการบิน

12 กุมภาพันธ์ 2567

ทีมงานเพ็ทพาเพลิน ได้รวบรวมกฎเกณฑ์ในการขนส่งสัตว์เลี้ยง ในแต่ละสายการบิน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบริการที่กำลังได้ความสนใจจากกลุ่มคนรักสัตว์จำนวนมาก

ธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งสัตว์เลี้ยง ซึ่งหลายคนยังไม่ทราบว่าปัจจุบันนี้หลายสายการบินเปิดบริการให้ส่งสัตว์เลี้ยงได้แล้วซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและค่าบริการที่ไม่แพง ทำให้เป็นตัวเลือกดี ๆ ในการส่งน้อง ๆ เดินทาง ซึ่งสามารถช่วยลดเวลาในการเดินทางของสัตว์เลี้ยงได้ ทีมงานเพ็ทพาเพลิน จึงจะพามาดูข้อกำหนดแต่ละสายการบินมีอะไรบ้างดังต่อไปนี้

เผยกฎเกณฑ์การขนส่งสัตว์เลี้ยง ในแต่ละสายการบิน
การบินไทย (Thai Airways) 
อนุญาตให้ขนส่งสัตว์เลี้ยงได้ทุกชนิด สำหรับสุนัขและแมวต้องมีอายุมากกว่า 2 เดือนขึ้นไป กรณีต่ำกว่านั้นต้องมีใบรับรองการตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์ว่าสัตว์เลี้ยงแข็งแรงพอจะทำการขนส่งทางเครื่องบินได้ 
ทั้งนี้ต้องติดต่อแจ้งทางสายการบินให้ทราบล่วงหน้าในวันที่สำรองบัตรโดยสาร หรืออย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนเครื่องออก โดยต้องให้รายละเอียดของสัตว์เลี้ยง ได้แก่ สายพันธุ์ อายุ ขนาด น้ำหนัก และขนาดของกรง และในวันเดินทางหากเจ้าของเดินทางไปพร้อมสัตว์เลี้ยงให้ทำการติดต่อที่เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินก่อนเครื่องออก 3 ชั่วโมง จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำสัตว์เลี้ยงไปโหลดไว้ที่ห้องบรรทุกสัมภาระพิเศษใต้ท้องเครื่องบินที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงและมีระบบรักษาความปลอดภัยพิเศษ แต่ถ้าไม่ได้เดินทางไปพร้อมสัตว์เลี้ยงให้ติดต่อที่คาร์โก ณ สนามบินนั้นก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiairways.com หรือโทรฯ 02-545-3691 

เผยกฎเกณฑ์การขนส่งสัตว์เลี้ยง ในแต่ละสายการบิน

 

 

สายการบินนกแอร์ (Nok Air) 
อนุญาตขนส่งสัตว์เลี้ยงเฉพาะสุนัข แมว กระต่าย และปลา โดยต้องมีสุขภาพแข็งแรง ไม่อยู่ในฤดูผสมพันธุ์ และต้องจัดใส่ในกรงมาตรฐานหรือบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม ในวันเดินทางหากเจ้าของเดินทางไปพร้อมสัตว์เลี้ยงให้ทำการติดต่อที่เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน แต่ถ้าไม่ได้เดินทางไปพร้อมสัตว์เลี้ยงต้องติดต่อที่คาร์โก้ ณ สนามบินนั้น 

สุนัข แมว กระต่าย และปลาที่บรรจุมาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์เป็นสัมภาระพิเศษซึ่งจะต้องได้รับการตรวจเช็คเช่นเดียวกับสัมภาระปกติและเสียค่าขนส่ง 200 บาทต่อตัว (ยกเว้นปลาคิดตามบรรจุภัณฑ์) โดยอนุญาตให้มีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม (รวมบรรจุภัณฑ์) แต่น้ำหนักนี้ไม่ได้นับรวมกับน้ำหนักกระเป๋า หากเกิน 15 กิโลกรัม จะต้องเสียค่าขนส่งเพิ่มอีก 200 บาท ทั้งนี้น้ำหนักสูงสุด ต้องไม่เกิน 30 กิโลกรัม (รวมบรรจุภัณฑ์) ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ จะต้องเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองว่าป้องกันการหลบหนี และการขีดข่วนของสัตว์ได้ และจะต้องมีขนาดใหญ่พอเพียงให้สัตว์ยืนและนอนได้เหมาะสม ไม่แตกหักเสียหาย ป้องกันการรั่วซึมของของเหลว และเหมาะสมกับการขนส่งทางอากาศ 
ทางสายการบินนกแอร์ให้บริการขนส่งสัตว์เลี้ยงในทุกเที่ยวบิน ที่ทำการบินด้วย Boeing 737 เท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nokair.com หรือโทรฯ 1318 

เผยกฎเกณฑ์การขนส่งสัตว์เลี้ยง ในแต่ละสายการบิน

 


 

 

 

สายการบินบางกอกแอร์เวยส์ (Bangkok Airways) 
อนุญาตขนส่งสัตว์เลี้ยงเฉพาะสุนัขและแมวเท่านั้น โดยจะต้องมีอายุมากกว่า 2 เดือนขึ้นไป ไม่เจ็บป่วยหรือตั้งท้อง ทั้งนี้ต้องทำการแจ้งล่วงหน้ากับฝ่ายสำรองที่นั่งอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เนื่องจากสายการบินอนุญาตให้ขนส่งสัตว์เลี้ยงได้เพียงเที่ยวบินละ 2 กรงเท่านั้น และจำนวนสัตว์ 1 กรงต่อ 1 ตัวเท่านั้น 
ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2558 - 31 ธันวาคม 2558 ทางบริษัทฯ ไม่สามารถให้บริการรับขนส่งสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) ในเส้นทาง กรุงเทพฯ - อุดรธานี / อุดรธานี - กรุงเทพฯ และ กรุงเทพฯ - เชียงราย / เชียงราย – กรุงเทพฯได้เนื่องด้วยข้อจำกัดทางด้านปฏิบัติการบิน  
เครื่องบินบางประเภทของสายการบินไม่สามารถรองรับการขนส่งสัตว์เลี้ยงได้ สามารถตรวจสอบประเภทของเครื่องบินโดยติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokair.com หรือโทรฯ 1771 

อย่างไรก็ตามก่อนจะขนส่งน้องๆ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องพิจารณาก่อนที่จะทำการขนส่งสัตว์เลี้ยงทางเครื่องบินนั่นก็คือ สัตว์เลี้ยงต้องมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ไม่อยู่ในภาวะเป็นฤดูผสมพันธุ์หรือกำลังตั้งครรภ์ แนะนำว่าเจ้าของควรพาสัตว์เลี้ยงไปรับการตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์ และควรได้รับการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนนำขึ้นเครื่อง นอกจากนี้ ก่อนการเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง ให้งดอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อป้องกันการอาเจียนระหว่างการเดินทาง

เผยกฎเกณฑ์การขนส่งสัตว์เลี้ยง ในแต่ละสายการบิน

เรียบเรียงโดย ชาคริตส์ คงหาญ