พังข้าวต้ม เริ่มยืน ก้าวเดินได้ ทีมสัตวแพทย์เร่งฟื้นฟูต่อเนื่อง

อัปเดตอาการ "พังข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง ศูนย์บึงฉวาก เผยกินนม-ยืนได้เองบ่อยขึ้น ทีมสัตวแพทย์ ม.เกษตรศาสตร์ เฝ้าระวังใกล้ชิดและวางแผนกายภาพบำบัดต่อเนื่อง
วันที่ 29 กันยายน 2568 – เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยทีมสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ยังคงเฝ้าติดตามอาการของ ลูกช้างป่าพลัดหลง เพศเมียชื่อ “พังข้าวต้ม” อย่างใกล้ชิด ณ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก หลังเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพบสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น แต่ยังต้องได้รับการดูแลตลอดเวลา
น.สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และ น.สพ.นภัส เสวกวรรณ นายสัตวแพทย์ประจำกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า รายงานอาการล่าสุดของ “พังข้าวต้ม” ว่า
- ภาวะโภชนาการ: ลูกช้างสามารถกินนมและน้ำได้ตามปกติ แต่อุจจาระยังมีลักษณะเหลวสีเขียว ทีมสัตวแพทย์จึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์ที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
- อาการบาดเจ็บ: หนองบริเวณสะดือลดลง แต่ยังมีหนองที่เล็บเท้า ต้องทำความสะอาดแผลต่อเนื่องทุกวัน
- การเคลื่อนไหว: ลูกช้างเริ่มพยุงตัวลุกยืนได้บ่อยขึ้น และจากการทำกายภาพบำบัดด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ร่วมกับการยืดเหยียด พบว่าขาหน้าเริ่มคลายตัวและเริ่มก้าวเดินลงน้ำหนักได้มากขึ้น
- การรักษาอื่นๆ: ทีมสัตวแพทย์ยังคงให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
แม้จะมีสัญญาณเชิงบวก แต่ ทีมสัตวแพทย์ ยังคงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะลูกช้างที่ยังอ่อนแอมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนง่าย ทั้งนี้ ทีมสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จะเดินทางเข้าพื้นที่วันที่ 30 กันยายน 2568 เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติม และวางแผนกายภาพบำบัดเร่งฟื้นฟู “พังข้าวต้ม” ต่อไป