อัปเดตอาการ "พังข้าวต้ม" สุขภาพดีขึ้น ค่าตับ-ไตยังสูง

ทีมสัตวแพทย์บึงฉวากเผยอาการ "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง มีพัฒนาการดีขึ้น กินนม-น้ำได้ปกติ เดินได้บ้าง แต่ค่าตับ-ไตยังสูง ต้องดูแลใกล้ชิดต่อเนื่อง
ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวากและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก รายงานความคืบหน้าการดูแลรักษา ลูกช้างป่าพลัดหลง "ข้าวต้ม" ที่เข้ารับการดูแลตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2568 โดยทีมสัตวแพทย์นำโดย น.สพ. ณฐนน ปานเพ็ชร และ น.สพ. นภัส เสวกวรรณ ยืนยันว่าสุขภาพโดยรวมมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด
ด้าน สุขภาพทั่วไปของข้าวต้ม สามารถกินนมและน้ำได้ตามปกติ ระบบขับถ่ายเริ่มดีขึ้น แม้อุจจาระยังเหลวเล็กน้อยและปัสสาวะมีสีขาวขุ่น ขณะที่บริเวณสะดือยังพบหนอง ซึ่งทีมแพทย์ต้องทำแผลทุกวัน ส่วนพัฒนาการการเคลื่อนไหว ลูกช้างสามารถพยุงตัวยืนได้เองบางช่วง พร้อมมีทีมเจ้าหน้าที่ช่วยประคองและทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ ผลตรวจเลือดลูกช้างข้าวต้ม ล่าสุด พบค่าตับ ค่าไต และค่าการสลายกล้ามเนื้อยังสูงกว่าปกติ แต่มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับการตรวจครั้งแรก ทำให้ทีมแพทย์ยังคงให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 ก.ย. เวลา 20.10 น. "ข้าวต้ม" มีภาวะอ่อนเพลียและระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติ ซึ่งทีมแพทย์ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ การรักษาความผิดปกติของ เส้นเอ็นข้อขาหน้าลูกช้างป่า ซึ่งเป็นมาแต่กำเนิด ดำเนินการผ่านกายภาพบำบัด อัลตราซาวด์ และการกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ล่าสุดพบว่าขาหน้ามีอาการคลายตัวดีขึ้นเล็กน้อย
แม้สุขภาพโดยรวมของ ลูกช้างป่าพลัดหลง "ข้าวต้ม" จะดีขึ้น แต่ทีมสัตวแพทย์ยังคงต้องดูแลใกล้ชิดต่อเนื่อง เนื่องจากลูกช้างที่อ่อนแอยังคงมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจกระทบต่อสุขภาพได้

โปรดเกล้าฯ พล.ต.อ.จักรทิพย์ พ้นการปฏิบัติหน้าที่ นายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ

อัปเดตอาการ "พังข้าวต้ม" สุขภาพดีขึ้น ค่าตับ-ไตยังสูง

โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน ลำดับที่ 20

ประกาศ ฉ. 2 อัพเดทเส้นทาง "พายุบัวลอย" ไทยเตือนฝนหนักหลายพื้นที่
