เปิดผลสอบข้อเท็จจริง "ผอ.หวงเก้าอี้" ผิดวินัยไม่ร้ายแรง แต่ทำร้ายจิตใจ

29 มีนาคม 2567

สพฐ.เปิดผลสอบข้อเท็จจริงกรณี ผอ.โรงเรียนร้อยเอ็ดหวงเก้าอี้ พฤติกรรมเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง แต่ทำร้ายจิตใจ

เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2567 ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ติดตามและตรวจสืบข้อเท็จจริง กรณีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด ไม่พอใจครูในโรงเรียนนั่งเก้าอี้ของตน และสั่งการให้เจ้าหน้าที่โรงเรียนจัดซื้อเก้าอี้ใหม่มาทดแทน โดย สพฐ.ได้สั่งการ ผอ.เขตพื้นที่เร่งสืบสวนข้อเท็จจริงและรายงานผลต่อ สพฐ.ภายใน 7 วันนั้น 

เปิดผลสอบข้อเท็จจริง ผอ.หวงเก้าอี้ ผิดวินัยไม่ร้ายแรง แต่ทำร้ายจิตใจ

ล่าสุดเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 ได้รายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริง พบว่า พฤติกรรมดังกล่าวของผู้อำนวยการโรงเรียน ถือเป็นกรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 88 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และแก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 เนื่องจากการพูดจาที่ไม่ดี ทำร้ายจิตใจ ทำให้ทุกคนได้รับความทุกข์ใจไม่สบายใจ

 

เปิดผลสอบข้อเท็จจริง ผอ.หวงเก้าอี้ ผิดวินัยไม่ร้ายแรง แต่ทำร้ายจิตใจ

 พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการไม่ประพฤติตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ชุมชน สังคม ไม่รักษาความสามัคคี หรือให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างข้าราชการด้วยกัน หรือผู้ร่วมปฏิบัติราชการ  อีกทั้งพฤติกรรมดังกล่าวยังเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 85 วรรคหนึ่ง และมาตรา 95 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และแก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562

 

 เนื่องจากผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการและหน่วยงานการศึกษาฯ อีกด้วย

ทั้งนี้ สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 โดยกลุ่มกฎหมายและคดีได้สรุปผลการสืบข้อเท็จจริง พบว่า มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรง และจะดำเนินการทางวินัยกับบุคคลดังกล่าวต่อไป