คดีพลิก 5 ชีวิตหายปริศนา ล่าสุดโผล่ลาดพร้าว ก่อนโทรบอกให้ไปถอนแจ้งความแล้ว

30 มิถุนายน 2566

คบหน้าล่าสุด คดีพลิก 5 ชีวิตหายปริศนา ล่าสุดเจอแล้วตัวเป็นๆ โผล่ลาดพร้าว ก่อนรีบโทรบอกให้ไปถอนแจ้งความแล้ว!

ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 29มิ.ย.66 ทางมูลนิธิกระจกเงา มีการประกาศตามหาคนหาย 5 ราย

 

คดีพลิก 5 ชีวิตหายปริศนา ล่าสุดโผล่ลาดพร้าว ก่อนโทรบอกให้ไปถอนแจ้งความแล้ว

1.นางอุษา ปานรอด หรือ ษา อายุ 43 ปี
2.นางสาวชนนิกานต์ โตชะนก หรือ บีม อายุ 22 ปี
3.นางสาวญาสุมินร์ โจมฤทธิ์ หรือ รุ้ง อายุ 22 ปี
4.เด็กหญิงศศิประภา รุจิตร หรือ ฟ้าใส อายุ 13 ปี
5.เด็กชายพรพิพัฒน์ ปานรอด หรือ ฟอร์ด อายุ 13 ปี

    ซึ่ง คนหาย 5 ราย หายออกไปจากบริเวณ หมู่ที่ 6 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2566 

ล่าสุดมีความคืบหน้าตำรวจพบหลักฐานว่าทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้ถูกกักขังลักพาตัว โดยได้เช่าแมนชั่นอยู่ในกรุงเทพฯ โผล่ย่านลาดพร้าว วงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน  ล่าสุด30 มิ.ย.66 มีรายงานว่า  1 ใน 5 คนหาย ได้โทรหาแม่ให้ไปถอนแจ้งความที่สถานีตำรวจท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

 

ซึ่งอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติม  คนหาย 5 คน ที่นครศรีธรรมราช  ล่าสุดตำรวจพบหลักฐานยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้ถูกกักขังลักพาตัว เช่าแมนชั่นอยู่ในกรุงเทพ โดยทางเพจ ดาวแปดแฉก ได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพบุคคล 5 คน หลังจากที่หญิงสาวคนหนึ่งร้องเรียนผ่านสื่อให้ช่วยตามหาญาติของตัวเองโดยอ้างว่า ถูกลักพาตัวหายไป นานกว่า 2 เดือน จากพื้นที่ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยอ้างกลุ่มแฟนหนุ่มของ 1 ในผู้ที่หายตัวไปคือนายลมกรด หรือ แบงค์ เป็นคนก่อเหตุ และไม่สามารถติดต่อญาติได้ 

 

คดีพลิก 5 ชีวิตหายปริศนา ล่าสุดโผล่ลาดพร้าว ก่อนโทรบอกให้ไปถอนแจ้งความแล้ว

 

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบทำให้ทราบว่าบุคคลที่ญาติบอกว่า ติดต่อไม่ได้และนายลมกรด เป็นผู้ก่อเหตุนั้น ปรากฏภาพบุคคล 5 คน เข้าพักที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง ซ.ลาดพร้าว 130 กรุงเทพฯ และออกจากแมนชั่นแห่งนี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2566 เวลาประมาณ 11.50 น. โดยทุกคนเดินปกติไม่เหมือนถูกลักพาตัวหรือการถูกกระทำอื่น

 

คดีพลิก 5 ชีวิตหายปริศนา ล่าสุดโผล่ลาดพร้าว ก่อนโทรบอกให้ไปถอนแจ้งความแล้ว


นอกจากนี้ยังมีการขุดแฉข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า  แบงค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับที่อยู่กับ 5บุคคล ที่ญาติๆกำลังตามหาติดต่อไม่ได้ พบประวัติกันฉ้อโกงธนาคารแห่งหนึ่งความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท