"เพื่อนบ้าน จอดรถขวาง" แจงความจริงอีกด้าน งานนี้ใครถูกใครผิด

03 เมษายน 2566

"เพื่อนบ้าน เจ้าของรถจอดขวางหน้าบ้าน" แจงความจริงอีกด้าน ชี้โดนเขียนกระดาษเตือนแปะที่รถ เหมือนเป็นการข่มขู่ งานนี้ใครถูกใครผิด

 มีข่าวออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง กับประเด็นเพื่อนบ้านจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น และมักจะตามมาด้วยการทะเละกัน จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปและภาพ เอาไว้ว่า


เพื่อนบ้าน จอดรถขวาง แจงความจริงอีกด้าน งานนี้ใครถูกใครผิด


"จอดรถขวางทางเข้าบ้านจนเข้าไม่ได้ บอกผมจอดได้เป็นที่ส่วนรวม เจ้าของบ้านไม่มีสิทธิ์ ตรรกะป่วย อยากดังทั้งครอบครัวก็จัดให้ครับ"

จากคลิปดังกล่าวจะเห็นว่า  ทั้งสองฝ่ายมีการถกเถียงกันเรื่องที่จอดรถขวางทางเข้าบ้านของผู้โพสต์ ทำให้เข้าบ้านไม่ได้ และมีการเขียนจดหมายเตือนครั้งที่1 ครั้งที่ 2  ในการจอดรถแบบนี้ ซึ่งเมื่อมีการโพสต์ผ่านโซเชียล งานนี้ชาวเน็ตก็ต่างพากันคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันจำนวนมาก  

เพื่อนบ้าน จอดรถขวาง แจงความจริงอีกด้าน งานนี้ใครถูกใครผิด

โดยส่วนมากตำหนิพฤติกรรมเจ้าของรถ ที่ไปจอดหน้าบ้านคนอื่น แล้วไม่ยอมรับผิด ออกมายืนเถียงกับคู่กรณีทั้งครอบครัว ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองผิด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ส่วนรวม แต่ไม่มีสิทธิ์ มาใช้ประโยชน์ส่วนบุคคล 

 

เพื่อนบ้าน จอดรถขวาง แจงความจริงอีกด้าน งานนี้ใครถูกใครผิด

เพื่อนบ้าน จอดรถขวาง แจงความจริงอีกด้าน งานนี้ใครถูกใครผิด
 

  ล่าสุดเจ้าของรถจอดขวางหน้าบ้าน ได้ออกมาชี้แจงอีกด้าน และได้พบกับนางสาวนก (นามสมมุติ) คู่กรณีที่นำรถไปจอดขวางทางเข้าบ้านคนอื่น  ได้เล่าให้ฟังว่า ในคลิปที่ชี้แจงคือ เราไม่ได้ไปจอดหน้าบ้านพี่เขาทุกวัน สงกรานต์นี้ก็จะย้ายบ้านแล้ว และที่ผ่านมาก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย บ้านตนเองจะจอดรถหน้าปากซอย แต่วันนั้นไม่มีที่จอด จึงมาจอดในที่เกิดเหตุ

เพื่อนบ้าน จอดรถขวาง แจงความจริงอีกด้าน งานนี้ใครถูกใครผิด

เพราะเห็นว่าพี่เขานานๆจะกลับมาบ้านสักที  ส่วนตัวตนเองเข้าใจเจ้าของบ้าน  ใครๆก็อยากเข้าบ้านสะดวกแต่ตนเองอยากอธิบายว่า ปกติจะมีรถของบ้านอื่นก็จะไปจอดตรงหน้าบ้านคู่กรณีเหมือนกัน แต่ไม่เจอกับเจ้าของบ้าน  แต่ตนเองเอารถไปจอด ดันไปเจอกับเจ้าของบ้านพอดี ตนเองก็ยอมรับว่าพ่อตนเองใช้อารมณ์ในการเถียงกับคู่กรณี

เพื่อนบ้าน จอดรถขวาง แจงความจริงอีกด้าน งานนี้ใครถูกใครผิด

 

   แต่พ่อทำไปเพื่อปกป้องลูกตัวเอง เนื่องจากคู่กรณีได้เขียนจดติดไว้ที่กระจกรถว่า “เตือนครั้งที่1” ซึ่งคำว่าเตือนครั้งที่1 เหมือนเป็นการข่มขู่ และที่บ้านในช่วงเวลากลางวันจะมีน้องสาวอายุแค่ 16 ปีอยู่บ้านเพียงคนเดียว น้องเกิดอาการกลัว   เรื่องนี้จริงๆแล้วสามารถมาเรียกให้ขยับรถได้ 

เพื่อนบ้าน จอดรถขวาง แจงความจริงอีกด้าน งานนี้ใครถูกใครผิด

ชมคลิป