ป้าขี่รถชนเฟอร์รารี่ โดนค่าซ่อม 1.46 ล้าน แต่เรื่องถึงศาลงานนี้คดีพลิก?

ทำเอาคนหลายคนร้องซี้ดกันเลยทีเดียว หลังจากที่ได้เกิดอุบัติเหตุของหญิงวัย 60 ปี ที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ชนรถหรูบริเวณทางแยก ในเขตเทศมณฑลหนานโถว ของไต้หวัน

ซึ่งรถที่เธอชนนั้นเป็น เฟอร์รารี่ รุ่นลิมิเด็ต มูลค่า 16 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 18 ล้านบาท ได้รับความเสียหาย นำมาสู่การฟ้องเรียกค่าเสียหายถึง 1.3 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือ ราว 1.46 ล้านบาท แต่เงินจำนวนดังกล่าวนั้นเป็นมูลค่าสูงเกินกว่าที่คุณป้าจะชดใช้ไหว แต่คำตัดสินสุดท้ายจากศาลทำให้คดีนี้ได้รับความสนใจขึ้นมา
 

รายงานเผยว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นบริเวณแยกถนนหลงซาน ตัดกับถนนจู่เซิง โดยมีฝั่งหนึ่งเป็นสัญญาณไฟแดง และอีกฝั่งเป็นสัญญาณไฟเหลือง ช่วงเวลานั้นรถมอเตอร์ไซค์ของคุณป้าที่ไม่ได้ชะลอความเร็วช่วงไฟเหลือง พุ่งไปชนเข้ากับรถหรูที่ขับตัดมา ทำให้บริเวณกันชนด้านหน้ารถเสียหาย ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ของคุณป้าล้มคว่ำบนถนน

เนื่องจากคู่กรณีเป็นรถสปอร์ตหรูมูลค่า 16 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ที่เพิ่งซื้อมาได้ไม่ถึง 10 เดือน ค่าซ่อมจึงมีราคาไม่ใช่น้อย เฉพาะค่ากันชนที่ต้องเปลี่ยนก็สูงถึง 1.25 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือ ราว 1.4 ล้านบาท เมื่อรวมกับค่าแรงช่าง ค่าทำสี ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว จึงคิดเป็นความเสียหาย 1.3 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งทางบริษัทประกันของรถเฟอร์รารี่ได้มาเรียกเก็บจากคุณป้าคู่กรณี

คุณป้ารายนี้มีรายได้เดือนละ 20,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 22,000 บาท แถมยังเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว รถมอเตอร์ไซค์ของเธอก็มีประกันเพียงระดับพื้นฐานเท่านั้น ค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวจึงเป็นราคาสูงเกินกว่าที่จะจ่ายไหว สุดท้ายทางบริษัทประกันจึงยื่นฟ้องคดี เพื่อให้คุณป้าชดใช้ค่าเสียหาย

ทั้งนี้ เมื่อผู้พิพากษาตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุดังกล่าว รวมถึงบันทึกต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ พบว่าจุดที่เกิดเหตุเป็นแยกที่มีสัญญาณไฟจราจร ซึ่งตามหลักแล้วเมื่อรถเจอสัญญาณไฟแดงก็ควรจอดรอ ส่วนรถที่เจอสัญญาณไฟเหลืองก็ควรชะลอความเร็ว

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าเฟอร์รารี่คันนี้ได้ขับฝ่าไฟแดงมา ในขณะที่หญิงรายนี้ก็ไม่ได้ชะลอความเร็วตอนเจอไฟเหลือง เป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ดังนั้นผู้พิพากษาจึงชี้ว่า คนขับรถเฟอร์รารี่ควรมีส่วนรับผิดชอบ 80% ขณะที่คู่กรณีที่ไม่ได้ชะลอความเร็วหรือสนใจว่ามีรถขวางหน้า ต้องแบกรับความรับผิดชอบ 20% หรือก็คือให้เธอจ่ายค่าเสียหายเพียง 260,412 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 293,000 บาท เท่านั้น  

ข้อมูลจาก ETtoday