เที่ยวบินระทึก "หมีหลุดกรง" ในสายการบินดัง แถมน้องอ้อนจัดให้เกาหัว

เที่ยวบินระทึก "หมีหลุดกรง" ในสายการบินดัง แถมน้องอ้อนจัดให้เกาหัวมีรายงานจาก : เดอะซัน ว่า เกิดเหตุอันน่าตกใจ ปนน่ารัก ปนเสียวมือนิดๆ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ภายหลังจากที่มี หมี หลุดออกจากกรงขนส่งบนเครื่องบินพาณิชย์ของ สายการบินอิรักแอร์เวย์ ส่งผลให้ผู้โดยสารต้องถูกกักตัวอยู่บนเครื่อง

โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่านำกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ ก่อนยิงยาสลบ นำหมีกลับเข้ากรงและพาออกจากเครื่องบินในเวลาต่อมา ขณะที่ นายกรัฐมนตรีมุฮัมมัด ชิยาอ์ อัสซูดานี ผู้นำอิรัก สั่งให้เร่งสอบสวนหาสาเหตุของผิดพลาดดังกล่าว

ทั้งนี้ จากคลิปวิดีโอที่มีการบันทึกไว้เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่สนามบินเอื้อมมือไปลูบหัวของเจ้าหมีที่เดินไปมาอยู่ในส่วนเก็บสัมภาระ โดยเจ้าหมีเดินด้อมๆ มองๆ ไปมา แต่ไม่นานผู้เชี่ยวชาญก็มาถึงและยิงยาสลบใส่เจ้าหมี

ทั้งนี้ สายการบินอิรักแอร์เวย์กล่าวว่าไม่ใช่ความผิดของสายการบิน โดยอ้างว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสมในการขนส่งหมีตามที่ได้รับการอนุมัติจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และเบื้องต้นสายการบินยังแจ้งว่าหมีตัวนี้ถูกขนส่งจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ไปยังนครดูไบ
 

พร้อมกันนี้ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ของสายการบินที่ไม่เปิดเผยตัวตนกล่าวยืนยันว่าหมีตัวนี้กำลังเดินทางไปกรุงแบกแดด ซึ่งแถลงการณ์บางส่วนของสายการบินอิรักแอร์เวย์ระบุว่าขออภัยต่อผู้โดยสารสำหรับความล่าช้าที่ "อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท ความล่าช้าเกิดขึ้นเนื่องจากการขนส่งในที่เก็บสัมภาระ เมื่อมาถึงสนามบินดูไบสัตว์ตัวนี้ได้หนีออกจากกรงเฉพาะขนส่งสัตว์"

และไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุผลในการขนส่ง รวมถึงสวัสดิภาพและสุขภาพของหมี "หลังจากตรวจสอบเครื่องบินและทำให้แน่ใจว่าไม่มีความเสียหายใดๆ จากเหตุการณ์นี้ เที่ยวบินดังกล่าวก็เดินทางกลับไปยังกรุงแบกแดด"

นอกจานกี้ การเลี้ยงสัตว์นักล่าอย่างหมีในอิรัก โดยเฉพาะในกรุงแบกแดด กลายเป็นงานอดิเรกยอดนิยมในกลุ่มเศรษฐีเช่นเดียวกับหลายประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งทางการอิรักประสบปัญหาการควบคุมการนำเข้าสัตว์ป่าหรือบังคับใช้กฎหมายเพื่อปกป้องสัตว์เหล่านี้

อย่างไรก็ตาม โดยตำรวจนครบาลในกรุงแบกแดดเรียกร้องให้พลเมืองช่วยกันระมัดระวังไม่ให้สัตว์อันตรายหลุดออกไปตามท้องถนนในเมือง เพราะจะเป็นภัยต่อผู้อื่นหรืออาจกลายเป็นเมนูแปลกในร้านอาหารตามซึ่งเจ้าหน้าที่เคยได้รับแจ้งในลักษณะดังกล่าวมาก่อนหน้านี้