ทำความรู้จัก "สมรักษ์ คำสิงห์" นักชกเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

11 ธันวาคม 2566

ทำความรู้จัก "สมรักษ์ คำสิงห์" จากมวยวัด สู่ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย ล่าสุด เกิดประเด็นข่าวร้อน ถูกสาววัย 17 ปี แจ้งความ

กลายเป็นประเด็นร้อน จากกรณีที่หญิงสาววัย 17 ปี ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ อดีตนักมวยชื่อดัง ลวนลาม กระทำอนาจาร ต่อมาทราบว่า ชายคนดังกล่าวคือ สมรักษ์ คำสิงห์ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหา และยังมีประเด็นที่ทำเอาหลายคนตกใจ คือ สมรักษ์ คำสิงห์ เผยว่า เซ็นใบหย่ากับภรรยาได้ 2 เดือนแล้ว

ทำความรู้จัก สมรักษ์ คำสิงห์ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

สำหรับเส้นทางชีวิตของ สมรักษ์ คำสิงห์ หรือ บาส เกิดวันที่ 16 มกราคม 2516 ปัจจุบันอายุ 50 ปี เป็นชาวหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น (ปัจจุบันคือ อำเภอบ้านแฮด) เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2516 ในครอบครัวยากจน เป็นบุตรคนกลาง ในจำนวนลูกทั้ง 3 คน ของ นายแดงและนางประยูร คำสิงห์ เขามีพี่ชายซึ่งเป็นนักมวยด้วยเหมือนกัน คือ สมรถ คำสิงห์

สมรักษ์เข้าสู่เส้นทางมวยไทยด้วยการเรียนครั้งแรกที่โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาโนนสมบูรณ์ ด้วยเหตุที่สมรักษ์มีพ่อเป็นนักมวยเก่า จึงได้รับการฝึกการชกมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก ขึ้นชกมวยครั้งแรกขณะอายุได้ 7 ขวบ ก่อนได้รับการทาบทามจาก ณรงค์ กองณรงค์ หัวหน้าคณะณรงค์ยิมให้มาร่วมค่าย สมรักษ์จึงได้ขึ้นชกมวยไทยในชื่อ สมรักษ์ ณรงค์ยิม กลายเป็นนักมวยมีชื่อในจังหวัดขอนแก่น

ทำความรู้จัก สมรักษ์ คำสิงห์ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

ต่อมา ณรงค์กับนายแดงพ่อของสมรักษ์เกิดแตกคอกัน สมรักษ์จึงย้ายไปอยู่ค่ายศิษย์อรัญ เข้ามาชกมวยในกรุงเทพฯ เข้าเรียนที่ โรงเรียนผะดุงศิษย์พิทยา ซึ่งสมรักษ์ชกทั้งมวยไทย และมวยสากลสมัครเล่น โดยสมรักษ์ขึ้นชกมวยไทยในชื่อใหม่คือ "พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ" แต่พอสมรักษ์ขึ้น ม.2 พ่อก็ถึงแก่กรรม

จากนั้น สมรักษ์ตระเวนชกตามเวทีต่างๆ มีโอกาสขึ้นชกกับนักมวยชื่อดังยุคนั้นหลายคน แต่ไม่เคยได้แชมป์มวยไทยของเวทีใด จนกระทั่งปี พ.ศ. 2538 จึงขึ้นชกมวยไทยครั้งสุดท้าย ก่อนเอาชนะน็อกคู่แข่งได้สำเร็จ และหันมาเอาดีด้านมวยสากลสมัครเล่นอย่างเดียว

สมรักษ์เริ่มเข้าแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในนามของโรงเรียน เมื่อ พ.ศ. 2528 เมื่ออายุ 12 ปี โดยมีพิกัดน้ำหนัก 52 กิโลกรัม เมื่อสมรักษ์จบ ม.6 จากโรงเรียนผะดุงศิษย์พิทยา ได้รับการทาบทามจากสโมสรราชนาวีให้ชกมวยสากลสมัครเล่นในนามของสโมสรและจะบรรจุให้เข้ารับราชการในกองทัพเรือด้วย สมรักษ์จึงตอบตกลง สมรักษ์ประสบความสำเร็จได้ทั้งแชมป์ประเทศไทยและเหรียญทองกีฬาแห่งชาติ

สมรักษ์ เข้าสู่ทีมชาติครั้งแรก ในการแข่งขันโอลิมปิก ที่บาร์เซโลนา ใน พ.ศ. 2535 ในรุ่นเฟเธอร์เวท รอบแรกชนะนักมวยจากแคนาดา ก่อนจะตกรอบสองแพ้ให้กับนักมวยจากสเปน สมรักษ์เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาเป็นครั้งแรก จากการเป็นนักกีฬาไทย ที่ได้เหรียญทองเพียงคนเดียว ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 12 ในปี พ.ศ. 2537 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น

ทำความรู้จัก สมรักษ์ คำสิงห์ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

กระทั่งพ.ศ. 2538 สมรักษ์ได้เหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ที่เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือกไปแข่งกีฬาโอลิมปิกรอบสุดท้ายในปี พ.ศ. 2539 ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาคนแรกของไทยที่สามารถคว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกมาได้

โดยรอบแรกสมรักษ์ชนะนักชกเปอร์โตริโก 13-2, รอบสอง ชนะแอฟริกาใต้ 12-7, รอบสามชนะรัสเซีย 13-4 รอบรองชนะเลิศ ชนะอาร์เจนตินา 20-8 และรอบชิง เขาพบกับ เซราฟิม โทโดรอฟ นักชกจากบัลแกเรีย ก่อนจะเอาชนะไปด้วยคะแนน 8-5

ภายหลังจากได้เหรียญทองโอลิมปิก สมรักษ์กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของประเทศ ด้วยความเป็นคนมีบุคคลิกเฮฮาสนุกสนานจึงได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นพระเอกในละคร "นายขนมต้ม" ทางช่อง 7 และรับงานด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย

ทำความรู้จัก สมรักษ์ คำสิงห์ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

ต่อมาในการแข่งขันโอลิมปิกที่ซิดนีย์ ปี พ.ศ. 2543 เขาตกรอบ 8 คนสุดท้าย และโอลิมปิก ที่กรุงเอเธนส์ปี พ.ศ. 2547 สมรักษ์เข้าแข่งขันรุ่นเฟเธอร์เวท รอบแรก แพ้คะแนนนักมวยจากแคนาดา ทำให้เลิกชกมวยสากลสมัครเล่นอย่างเด็ดขาด แล้วหันมารับงานในวงการบันเทิงแบบเต็มตัว ทั้งร้องเพลง เล่นภาพยนตร์ ละคร เป็นแขกรับเชิญร่วมสร้างสีสันให้รายการต่างๆ

ส่วนชีวิตครอบครัว สมรักษ์ แต่งงานกับนางเสาวนีย์ คำสิงห์ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ทั้งคู่ยังเรียนหนังสืออยู่ที่ขอนแก่น มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ "เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์" และ "โบ๊ท ภูวรักษ์ คำสิงห์" ซึ่งทั้งครอบครัวได้เปิดช่องยูทูบทำรายการ ได้รับความสนใจและความนิยมเป็นอย่างมากจนโด่งดัง

ทำความรู้จัก สมรักษ์ คำสิงห์ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

จนล่าสุดที่มีข่าวกระฉ่อนในตอนนี้ สมรักษ์จึงได้ออกมาเปิดใจว่าตนได้หย่า เลิกรากับภรรยาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ สมรักษ์ คำสิงห์ เคยถูกฟ้องเป็นบุคคลล้มละลาย ชีวิตต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่กลับมาได้เพราะลูกทั้ง 2 คน

ในวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 สมรักษ์ได้เปิดตัวเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมกับเพื่อนนักมวยอีก 3 คน ได้แก่ เขาทราย แกแล็คซี่, มนัส บุญจำนงค์ และเจริญทอง เกียรติบ้านช่อง โดยที่สมรักษ์ลงรับสมัครเลือกตั้งในเขต 10 อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 สมรักษ์ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 11 จังหวัดขอนแก่น สังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งเช่นกัน