ยื้อไม่ไหว! CARS24 ปิดกิจการฟ้าผ่าทั่วประเทศ สูญเสียเกือบพันล้าน

30 เมษายน 2567

ธุรกิจรถมือสองต้องสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ CARS24 บริษัทสตาร์ทอัพระดับ ยูนิคอร์น ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายรถยนต์มือสองชื่อดังประกาศปิดกิจการทุกสาขาทั่วประเทศอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 เมษายน 2567 หลังขาดทุนเกือบพันล้านบาท จึงเป็นเหตุให้ต้องตัดสินใจปิดกิจการทันที

ยื้อไม่ไหว! CARS24 ปิดกิจการฟ้าผ่าทั่วประเทศ สูญเสียเกือบพันล้าน

ยื้อไม่ไหว! CARS24 ปิดกิจการฟ้าผ่าทั่วประเทศ สูญเสียเกือบพันล้าน

สำหรับ ผลประกอบการธุรกิจของบริษัท CARS24 จากการตรวจสอบข้อมูล จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ผ่านระบบวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจรของ Creden Data พบว่า บริษัท CARS24 หรือ บริษัท คาร์ส24 กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 64 พบรายชื่อคณะกรรมการบริษัท เป็นชาวต่างชาติ แจ้งดำเนินธุรกิจการขายยานยนต์เก่าชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 920,339,700 บาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้ 

  • ปี 2565 รายได้ 487,864,098 บาท ขาดทุน 1,300,900 บาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,704,697,783 บาท ขาดทุน 940,048,740 บาท
  • ปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 812,469,865 บาท หนี้สินรวม 180,720,134 บาท

ยื้อไม่ไหว! CARS24 ปิดกิจการฟ้าผ่าทั่วประเทศ สูญเสียเกือบพันล้าน

ขณะที่ ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปี 2567 ตลาดรถยนต์ในไทยยังต้องเผชิญปัจจัยท้าทายด้านเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ทำให้กลยุทธ์ลดราคาอาจทำได้เพียงพยุงตลาดให้ติดลบ 3% ปัจจัยมาจากยอดขายโดยรวมหดตัวลงอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคหันไปตามเทรนด์นั้นเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา

ยื้อไม่ไหว! CARS24 ปิดกิจการฟ้าผ่าทั่วประเทศ สูญเสียเกือบพันล้าน

เมื่อเข้าสู่ปี 2567 เริ่มต้นด้วยบรรยากาศ "ตึงเครียด" ของตลาดรถยนต์ ค่ายรถต่างงัดกลยุทธ์ "ลดราคา" กระตุ้นยอดขายและชิงส่วนแบ่งตลาด ดุเดือดเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มรถที่ยอดขายหดตัวในปีที่แล้ว และกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า BEV ที่ต้องการขยายฐานลูกค้า แต่ทว่า กลยุทธ์ "ลดราคา" อาจไม่เพียงพอที่จะพลิกชะตาตลาดปีนี้ เพราะต้องเผชิญกับ "อุปสรรค" 2 ประการ

ภาวะเศรษฐกิจ ยังไม่ฟื้นตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนแอ ประกอบกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง ส่งผลกระทบต่อ "กลุ่มรถราคาประหยัด" มากที่สุด
การแข่งขัน ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งจำนวนค่ายรถและรุ่นรถที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะค่ายรถจากจีนที่รุกตลาดรถยนต์นั่งอย่างรวดเร็ว นำเสนอรถ BEV ในราคาที่ดึงดูดใจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า ปี 2567 ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยน่าจะอยู่ที่ 750,000 คัน หดตัว 3% จากปี 2566 สำหรับ รถยนต์นั่ง มีโอกาสขยายตัวเล็กน้อย 1% จากแรงกระตุ้นของราคาที่ปรับลดลง แต่หากแยกเฉพาะรถยนต์นั่งใช้น้ำมัน คาดว่าจะหดตัว 13% เพราะมีรถยนต์นั่ง BEV ที่ขยายตัว 63% มาชิงส่วนแบ่งตลาด ส่วนรถเพื่อการพาณิชย์ ส่วนใหญ่เป็นรถปิกอัพ คาดว่าจะหดตัว 8% เพราะมีการปรับลดราคาไม่มาก สำหรับปัจจัยอื่นๆ นอกจากราคาแล้ว ผู้บริโภคยังพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ในการตัดสินใจซื้อ เช่น ความน่าเชื่อถือ คุณภาพ หาอะไหล่ทดแทนง่าย และราคาขายต่อที่ดี


ส่วนในกรณีลูกค้าได้ออกรถกับทางบริษัทไปก่อนหน้านี้ก็ผ่อนกับไฟแนนซ์ ตามปกติ และจะมีการเร่งระบายรถที่คงค้างอยู่ในบริษัท ออกให้หมดอย่างเร่งด่วน อาจจะมีการลดราคารถลงอีกต้องรอติดตามกันอีกที" โดยCARS24 เป็นแพล็ตฟอร์มขายรถยนต์มือสองออนไลน์จากประเทศอินเดีย โดยมีลักษณะการดำเนินธุรกิจด้วยการรับซื้อรถยนต์จากผู้ขาย จากนั้นจึงนำมาขายต่อให้กับลูกค้าอีกทอดหนึ่ง แต่ในช่วงระยะหลังเกิดปรากฏการณ์ตัดราคาจำหน่ายรถป้ายแดงเพื่อชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่งในตลาด กระทบต่อเนื่องมายังตลาดรถมือสอง บริษัทฯ จึงเกิดภาวะขาดทุนสะสมอย่างหนักจนต้องปิดกิจการดังกล่าว แตกต่างจากหลายแพล็ตฟอร์มที่มีลักษณะเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อเท่านั้น