เช็คค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 66 ปรับราคาลดลงได้สูงสุดกี่บาท ?

23 พฤษภาคม 2566

ปลัดกระทรวงพลังงานเผย ค่าไฟฟ้า ก.ย. - ธ.ค. 66 เตรียมลดลง 40-50 สตางค์ต่อหน่วย หลังปัจจุบันอยู่ที่ 4.70 บาท เนื่องจากราคาตลาดโลกคลี่คลาย

เช็คค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 66 ปรับราคาลดลงได้สูงสุดกี่บาท ? 

เช็คค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 66 ปรับราคาลดลงได้สูงสุดกี่บาท ?

เว็บไซต์สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาพลังงานตลาดโลกว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาเริ่มคลี่คลายลง ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG โดยราคาตลาดจร หรือ SPOT LNG ณ วันนี้ อยู่ที่ประมาณ 10.5 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้า เมื่อต้นทุนต่ำลงก็สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ 

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน

ภาพจาก  jajam_e_/ shutterstock.com

โดยค่าไฟฟ้างวดที่ 3 ของปีนี้ คืองวดเดือน กันยายน - ธันวาคม สามารถลดลงได้แน่ ๆ 40-50 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4 บาทต้น ๆ แต่ถ้าหากในระยะต่อไป ราคา SPOT LNG ลดลงอีก เหลือประมาณ 9 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู และ ปตท. สามารถซื้อได้ในราคาดังกล่าว ก็จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้ 70 สตางค์ต่อหน่วย จากราคาค่าไฟฟ้างวดปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย

ส่วนแนวโน้มการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. รายงานว่าอยู่ระหว่างเพิ่มกำลังผลิตแหล่ง G1/61 หรือเอราวัณเดิม จะเพิ่มกำเป็น 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เดือนกันยายนนี้ และต้นปี 67 จะเพิ่มกำลังผลิตให้ได้เป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ดังนั้น การนำเข้า LNG คาดว่าจะลดลงจากที่ ปตท. คาดการณ์ไว้ว่าจะขอนำเข้า 99 ลำ เหลือประมาณ 70 ลำ (ลำละ 60,000 ตัน) และการที่ราคาก๊าซฯ จากอ่าวไทย มีราคาถูกกว่า LNG โดยมีราคาที่ประมาณ 5-6 เหรียญต่อล้านบีทียู จะช่วยให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้อีก ดังนั้น ที่พรรคการเมืองหาเสียงไว้ว่าจะลดค่าไฟฟ้านั้น หากดูตัวเลขสามารถทำได้แน่นอน ลดได้อย่างน้อย 50 สตางค์ต่อหน่วย เพราะต้นทุนก๊าซฯ โดยรวมถูกลง
 

 

ที่มา:ข่าวช่อง 3