"ทนายพัช"ลุกขึ้นสู้ เตรียมฟ้องตำรวจ ผิด ม.157

23 พฤษภาคม 2566

สะพัด"ทนายพัช" อดีตทนายความ แอม ไซยาไนด์ เตรียมฟ้องตำรวจ ในความผิด ม.157 ล่าสุดโดนหมายเรียก หลังเบี้ยวนัดเจ้าหน้าที่


    คืบหน้าคดี แอม ไซยาไนด์ ล่าสุดวันที่ 23พ.ค.66  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ "ทนายพัช" ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ อดีตทนายความของ แอม สรารัตน์  รังสิวุฒาภรณ์ เตรียมที่จะฟ้องตำรวจในความผิดม.157 จำนวน 3 ราย ว่า  

 

   ตอนนี้ยังไม่ทราบเรื่อง แต่สิทธิ์ในการฟ้องมีทุกคน รวมถึงตัวทนายความเห็นด้วย แต่ตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน ไม่ได้ทำงานตามกระแสของสังคม เมื่อพยานหลักฐานเพียงพอก็ขออนุมัติหมายจับ 

   ซึ่งศาลท่านก็พิจารณาตามเหตุผลและพยานหลักฐาน ซึ่งการที่ศาลให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา ไม่ใช่การไม่เห็นด้วยกับพยานหลักฐาน แต่เป็นเรื่องของการแจ้งความผิดเดียวกับรองอ๊อฟ ที่ไม่ได้ถูกออกหมายจับ ศาลจึงพิจารณาให้ออกเป็นหมายเรียก

"ทนายพัช"ลุกขึ้นสู้ เตรียมฟ้องตำรวจ ผิด ม.157

 

  ส่วนตัวทนายพัชเมื่อวานวันที่ 22พ.ค.66 ที่ผ่านมา มีการติดต่อขอมอบตัวที่กองปราบปรามตอนเวลา 19.00 น แต่สุดท้าย ทนายพัชก็เบี้ยวนัด ไม่มาตามที่แจ้งเอาไว้ ซึ่งการติดต่อขอมอบตัวเป็นเรื่องที่เจ้าตัวติดต่อเอง เมื่อเจ้าตัวไม่มาตำรวจก็จะออกหมายเรียกดำเนินการตามกฎหมาย

"ทนายพัช"ลุกขึ้นสู้ เตรียมฟ้องตำรวจ ผิด ม.157


   ส่วนการที่ ทนายพัชจะฟ้องตำรวจ ม.157 จะกระทบต่อคดีที่จำแจ้งข้อหาหรือไม่นั้น รองผบ.ตร. เปิดเผยว่า ไม่กระทบ ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย และมีหน้าที่รักษาความเป็นธรรม สืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ร้าย

 

 

  ซึ่งการทำหน้าที่ดังกล่าวก็สุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องดำเนินคดีอยู่แล้ว ตำรวจแค่ต้องตอบให้ได้และพิสูจน์ว่าดำเนินการตามพยานหลักฐาน ซึ่งหากปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหมายก็จะเป็นกรอบคุ้มครองตัวเราเอง ยืนยันว่าการที่ทนายภัทรฟ้องตำรวจในลักษณะเชิงแก้เกี้ยว จะไม่ทำให้ตำรวจเกิดอคติในการทำคดี

"ทนายพัช"ลุกขึ้นสู้ เตรียมฟ้องตำรวจ ผิด ม.157

  ทั้งนี้เมื่อ ทนายพัช มามอบตัวกับพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก การจะไม่ให้ประกันตัวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน และมีหลักเกณฑ์อยู่แล้วตามกรอบของกฏหมาย ซึ่งตามกฎหมายพนักงานสอบสวนสามารถขอหมายขังได้ ตามป.วิอาญา 134 หรือ ไม่ขอหมายขังก็ได้