“ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” 1 ปี มีครั้งเดียว ที่ประจวบคีรีขันธ์

12 กุมภาพันธ์ 2567

“ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” วัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันของคนกับป่าสืบทอดต่อเนื่องมากว่า 20 ปี โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ต้นปอคาวหรือ ที่เรียกว่า “กาสะลองคำ” ไม้โบราณมีอายุยืนนับร้อยปี จะออกดอกให้ชมเพียงปีละ 1 ครั้ง ที่ประจวบคีรีขันธ์

      “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” ตามหาดอกปอคาว ร้อยปี และบวชป่า ที่บ้านสายเพชร แสดงออกถึงความรัก สามัคคี วัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันของคนกับป่าสืบทอดต่อเนื่องมากว่า 20 ปี บ้านสายเพชร ม.9 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวนอุทยานห้วยน้ำซับ ซึ่งในแต่ละปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ต้นปอคาวหรือ ที่เรียกว่า “กาสะลองคำ” ซึ่งจัดเป็นไม้โขดหรือไม้โบราณมีอายุยืนนับร้อยปี ที่มีอยู่จำนวนหลายร้อยบนเขาปุ่ด่างภายในวนอุทยานฯนี้ จะออกดอกให้ชมเพียงปีละ 1 ครั้ง โดยในแต่ละปี ชาวบ้านสายเพชรและใกล้เคีบงจะรวมตัวกันมาจัดกิจกรรม “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม“ ที่เป็นประเพณีสืบทอดกันมานานกว่า 20 ปีและประเพณีบวชป่าอนุรักษ์ต้นยวนผึ้งอายุกว่า 100 ปี ที่เป็นที่อยู่อาศัยของผึ้งป่าจำนวนมาก

“ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” 1 ปี มีครั้งเดียว  ที่ประจวบคีรีขันธ์

“ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” 1 ปี มีครั้งเดียว  ที่ประจวบคีรีขันธ์

“ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” 1 ปี มีครั้งเดียว  ที่ประจวบคีรีขันธ์

     นางวันเพ็ญ ลักยิ้ม ผู้ใหญ่บ้านสายเพชร เผยว่า ชาวบ้านสายเพชรจะร่วมกับทางวนอุทยานฯ จัดกิจกรรม “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” เป็นประจำในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเป็นส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในชุมชนโดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูหนาวย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ยอดเขาปู่ด่างซึ่งเป็นเขาหินปูน ต่างคราคร่ำไปด้วยต้นปอคาว หรือ อีกชื่อนึงว่า “กาสะลองคำ” นับหลายร้อยต้น พร้อมใจกันเริ่มผลัดใบออกดอกสีส้มอมแดง บานสะพรั่ง ซึ่งต้นปอคาวจัดเป็นพันธ์ไม้โบราณซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยากอีกขนิดหนึ่งในประเทศไทย

     ซึ่งพบเห็นได้ตามยอดเขาหินปูนในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ตั้งแต่จ.ประจวบคีรีขันธ์ลงไป ลักษณะของดอกปอคาว จะมีสีส้มอมแดง ออกดอกเป็นช่อแยกที่ปลายกิ่งและง่ามใบ ช่อดอกยาว 5-12 ซ.ม. ปลายกลีบดอกแยกเป็น5แฉกอวดโฉมความงดงาม 

      “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” 1 ปี มีครั้งเดียว  ที่ประจวบคีรีขันธ์

“ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” 1 ปี มีครั้งเดียว  ที่ประจวบคีรีขันธ์

     กิจรรมขึ้นเขาเผาข้าวหลามจัดขึ้นในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์เป็นประจำต่อเนื่องมากว่า 20 ปี ซึ่งชาวบ้านสายเพชรจะนัดหมาย ร่วมใจช่วยกัน นำมะพร้าว นำข้าวเหนียว ฯลฯ มาร่วมกันเพื่อเผาเป็นข้าวหลาม แจกจ่ายให้กับนักท่องเที่ยวและแบ่งปันกันนำกลับไปทานต่อกันที่บ้าน ถือเป็นกิจการมประเพณีที่สร้างความสมัครสมานสามัคคีภายในหมู่บ้านได้เป็นอย่างดีนอกจากนี่เป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ที่มาเที่ยวชม ถือเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์และวิถีชุมชน อีกทั้งยังเปรียบเสมือนการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวขึ้นเขาปู่ด่างเพื่อชมดอกปอคาวอายุร้อยปี ที่วนอุทยานห้วยน้ำซับ

     โดยในปีนี้ทางหมู่บ้านสายเพชรได้กำหนดวันจัดกิจกรรม“ขึ้นเขา แผาข้าวหลาม” ขึ้นในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 นอกจากกิจกรรม“ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” แล้วนั้นในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ของทุกปีที่บ้านสายเพชรยังจัดพิธีบวชป่าขึ้นที่วนอุทยานห้วยน้ำซับ เพื่อส่งเสริมให้คนในหมู่บ้าน เกิดความรักและหวงแหนในผืนป่า และยังเป็นการแสดงออกถึงวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันของคนในหมู่บ้านกับป่าผืนนี้

“ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” 1 ปี มีครั้งเดียว  ที่ประจวบคีรีขันธ์

“ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” 1 ปี มีครั้งเดียว  ที่ประจวบคีรีขันธ์

     สำหรับผู้ที่สนใจจะขึ้นชมเขาปู่ด่างชมดอกปอคาว ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เดือนมีนาคม จะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดเนื่องจากเป็นช่วงที่ดอกปอคาวออดดอกบานสะพรั่ง โดยทางวนอุทยานฯ ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่สนใจจะขึ้นชม

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

  • ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 07.00-09.00 น.
  • ช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 16.00-18.00 น.

ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป สามารถมองเห็นธรรมชาติและทัศนีย์ภาพของอำเภอบางสะพานได้แบบ 360 องศา