ลอยกระทงดิจิทัล ที่ กทม. ครั้งแรกของโลก ไอเดียแปลกใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

28 พฤศจิกายน 2566

กทม. ออกไอเดียต้อนรับเทศกาลลอยกระทง 2566 จัดกิจกรรม"ลอยกระทงดิจิทัล" ที่แรกและครั้งแรกของโลก แก้ปัญหาขยะในแม่น้ำ รักษ์โลกและยังคงอนุรักษ์ประเพณีไทยเอาไว้


  เป็นที่รู้กันดีว่าช่วงไม่กี่ปีมานี้ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปี ได้มีการรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด เพราะเกิดปัญหาเรื่องขยะและมลพิษในแม่น้ำลำคลอง ซึ่งในปี 2566 นี้ ก็ยังคงมีการรณรงค์ และในหลายพื้นที่ก็ยังชูเรื่องลอยกระทงรักษ์โลก ที่ผลักดันให้ใช้กระทงที่สามารถย่อยสลายได้อีกด้วย ซึ่ง กทม. ได้จัดกิจกรรม ลอยกระทงดิจิทัล ที่คลองโอ่งอ่าง ซึ่งก็มีกระแสตอบรับดีเยี่ยม ประชาชนล้นหลาม

 

     ซึ่งในปีนี้กรุงเทพมหานครได้จัดกิจกรรมใหม่ นั่นก็คือ “ลอยกระทงดิจิทัล” กิจกรรมไฮไลต์ใหม่ใน “เทศกาลลอยกระทง” ผ่าน Projection Mapping ซึ่งเป็นการลอยกระทงมิติใหม่ของกรุงเทพมหานครจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเทศกาลลอยกระทงประจำปีนี้ ณ คลองโอ่งอ่าง บริเวณสะพานบพิตรพิมุข

ลอยกระทงดิจิทัล ที่ กทม. ครั้งแรกของโลก ไอเดียแปลกใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม


   โดยทาง กทม. จัดเตรียมกระดาษพร้อมให้ประชาชนสามารถวาดรูประบายสีกระทงของตนเอง เขียนชื่อ และคำอวยพร จากนั้นก็สแกนรูปที่วาดลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วรูปที่วาดจะไปปรากฏบนจอดิจิทัลที่อยู่ในคลองโอ่งอ่าง ที่ปรากฏเป็นกระทงสีสันสวยงามบนคลองได้อย่างแปลกตาและน่าตื่นเต้น ไม่แพ้กระทงทั่วไป แต่ไม่สร้างขยะและทำลายสิ่งแวดล้อมเหมือนที่ผ่านมา

ลอยกระทงดิจิทัล ที่ กทม. ครั้งแรกของโลก ไอเดียแปลกใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

งานลอยกระทงดิจิทัลได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ ด้วยตัวกิจกรรมที่มีความสร้างสรรค์ แปลกใหม่ รักษ์โลก และยังอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมไทยได้

ลอยกระทงดิจิทัล ที่ กทม. ครั้งแรกของโลก ไอเดียแปลกใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

   ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจร่วมลอยกระทงดิจิทัลเป็น จำนวน 3,744 ใบ เลยทีเดียว
จากกระแสตอบรับที่ดีเหล่านี้ คาดว่ากิจกรรมใหม่นี้อาจจะเป็นนโยบายที่ดีในการช่วยลดขยะในแม่น้ำลำคลอง ช่วยลดการใช้กระทงโฟม หรือวัสดุที่ย่อยสลายยากทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นการช่วยอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตเอาไว้ และยังทำให้ประเพณีเก่าแก่นี้ได้ดำเนินต่อไปจนถึงคนรุ่นหลัง

ลอยกระทงดิจิทัล ที่ กทม. ครั้งแรกของโลก ไอเดียแปลกใหม่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม


   ถ้าหากในปีหน้านั้นมีการเพิ่มไอเดียแปลกใหม่ ที่จะทำให้มัดใจผู้คนได้มากขึ้น รับรองว่าจะเป็นผลดีทั้งกับคนที่ต้องการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม และกับคนที่ต้องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน