จีนบังคับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น ต้องมีที่เปิดประตูแบบกลไก

กลายเป็นประเด็นร้อนที่สั่นสะเทือนวงการยานยนต์ทั่วโลก เมื่อรัฐบาลจีนเตรียมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยครั้งใหญ่ โดยกำหนดให้รถยนต์ทุกคันต้องติดตั้ง "ที่เปิดประตูแบบกลไก" (Mechanical Handle) หลังจากเกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญใน รถยนต์ไฟฟ้า (EV) รุ่นดังหลายครั้ง ที่ระบบไฟฟ้าขัดข้องจนไม่สามารถเปิดประตูจากภายนอกหรือภายในได้

 

เบื้องหลังกฎเหล็ก: เมื่อดีไซน์ล้ำสมัยอาจกลายเป็นกับดัก ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ มักนิยมใช้ดีไซน์มือจับประตูแบบเรียบไปกับตัวรถ (Flush Door Handle) ซึ่งควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า 100% เพื่อความสวยงามและอากาศพลศาสตร์ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุรุนแรง เมื่อระบบไฟฟ้าถูกตัดขาดหลังการชน ทำให้ผู้โดยสารติดอยู่ภายใน และกู้ภัยไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันเวลา

เปิดร่างกฎหมายใหม่จาก MIIT ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ได้ร่างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ที่ ค่ายรถยนต์ ทุกแบรนด์ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังนี้:

 

- ต้องมีระบบกลไกสำรอง: ประตูข้างทุกบานต้องมี Manual Door Release ที่ใช้งานได้จริงแม้ไฟดับหรือระบบล็อกไฟฟ้าค้าง

- เปิดได้ด้วยมือเปล่า: ทั้งคนในรถและกู้ภัยต้องเปิดประตูได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือช่วย

- ตำแหน่งชัดเจน: มือจับภายในต้องอยู่ในจุดที่มองเห็นง่าย มีสัญลักษณ์ระบุชัดเจนแม้ในที่มืด

- ความแข็งแรงสูง: มือจับภายนอกต้องทนแรงดึงได้ไม่น้อยกว่า 500 นิวตัน และภายใน 200 นิวตัน เพื่อป้องกันการหักพังขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน

กำหนดการบังคับใช้ สำหรับการปรับตัวของ อุตสาหกรรมยานยนต์ จีนได้วางกรอบเวลาไว้ชัดเจน โดย รถยนต์รุ่นใหม่ ที่ขออนุมัติหลังจากนี้ต้องทำตามกฎภายใน 13 เดือน ส่วนรถยนต์รุ่นที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มีเวลาปรับปรุงให้ได้มาตรฐานภายใน 25 เดือน

 

การขยับตัวของจีนในครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า ความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า ต้องมาก่อนเทคโนโลยีที่สวยงาม และอาจกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ทำให้ค่ายรถทั่วโลกต้องหันกลับมาทบทวนการออกแบบ ระบบล็อกประตูรถยนต์ ในอนาคต