เพจดังแฉต่อ "น้องมาเฟีย" เล่าวีรกรรมทำระหกระเหินไปอยู่ปอยเปต

เพจดังแฉต่อ "น้องมาเฟีย" เล่าวีรกรรมทำระหกระเหินไปทำงานอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชาก่อน ที่จะมาเจอแฟนคนปัจจุบัน
ดราม่าระอุโซเชียลยังไม่จบ จากกรณี “น้องมาเฟีย” สาวไทยที่ย้ายไปปักหลักเปิดร้านเสริมสวยและใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา มานานกว่า 3 ปี ออกมาโพสต์คลิปตอบโต้เสียงวิจารณ์จากคนไทยบางส่วน ที่พูดถึงสภาพเมืองปอยเปตในเชิงดูถูก พร้อมใช้ถ้อยคำรุนแรงสวนกลับแบบตรงไปตรงมา จนจุดกระแสไม่พอใจและถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์
ล่าสุด วันที่ 22 ธันวาคม 2568 เพจดัง “เจ๊ม้อย v+” ได้ขุดข้อมูลในอดีตของหญิงสาวรายนี้ ก่อนจะไปตั้งตัวที่ปอยเปต โดยระบุว่า “น้องมาเฟีย” เคยใช้ชื่อว่า “น้องแป้ง” และ “น้องต้องมนต์” ในช่วงโควิด-19 ระบาด เคยทำวงแชร์และมีปัญหาหนี้สินพัวพันกับคนรอบตัวหลายราย
ข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ยังอ้างว่า ในอดีตเจ้าตัวคบหากับทอมหลายคน ซึ่งแต่ละความสัมพันธ์มักลงเอยด้วยปัญหาเรื่องเงิน ทั้งการหยิบยืม กู้เงินผ่านแอปและโซเชียลมีเดีย รวมถึงการนำบัตรประชาชนของคนรักไปใช้กู้หนี้ บางกรณีถึงขั้นให้นำรถยนต์และทรัพย์สินมีค่าไปจำนำ ส่งผลให้ฝ่ายคู่คบต้องรับภาระหนี้อย่างหนัก
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตในช่วงที่เคยอาศัยอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ก่อนจะเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนตัวตน และย้ายที่อยู่ เพื่อหลบเลี่ยงปัญหาต่างๆ โดยรูปแบบความสัมพันธ์มักวนซ้ำ คือ คบหา ใช้เงินจนหมด เลิกรา แล้วเริ่มต้นกับคนใหม่
กระทั่งท้ายที่สุด น้องมาเฟียได้ย้ายไปใช้ชีวิตที่ปอยเปต และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยปัจจุบันมีคู่ครองและใช้ชีวิตอย่างมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งมีรายงานว่าครอบครัวของฝ่ายคู่สมรสค่อนข้างมีฐานะและเป็นที่รู้จักในท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวทั้งหมดที่ถูกนำมาเปิดเผย ยังคงเป็นเพียงข้อมูลที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ และกลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมดจะเป็นอย่างไร และเจ้าตัวจะออกมาชี้แจงหรือไม่ในอนาคต

""เผยเคล็ดลับ 3 ไอเทมลับบนโต๊ะทำงาน ที่คน EQ สูงต้องมี""

ด่วน! USDA ยืนยันพบไข้หวัดนก H5N1 บุกโคนมรอบใหม่ในสหรัฐฯ

ไรเดอร์หัวร้อน ยอมรับเสียใจ ทำร้ายหนุ่มวัย 16 ดับ อ้างไม่รู้เป็นเด็ก

เพจดังแฉต่อ "น้องมาเฟีย" เล่าวีรกรรมทำระหกระเหินไปอยู่ปอยเปต
















