เปิดอายุแท้จริง - อาการป่วยคุณยาย หลังญาตินึกว่าเสียชีวิตไปแล้ว

เปิดอายุแท้จริง - อาการป่วยคุณยาย หลังญาติเห็นนั่งนิ่งไม่หายใจ ก่อนจะพาใส่โลงไปบริจาคร่างกาย แต่ทางโรงพยาบาลไม่รับ
เกิดเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงอย่างมาก หลังเฟซบุ๊กของวัดราษฎร์ประคองธรรม จ.นนทบุรี เผยคลิปขณะเปิดโลงศพเตรียมนำเข้าสู่เมรุ แต่กลับพบว่าคุณยายที่คิดว่าเสียชีวิตแล้ว ยังมีชีวิตอยู่ ครอบครัวเล่าว่าก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน คุณยายทานอาหารไม่ได้ หมดสติและหยุดหายใจ ญาติจึงเข้าใจว่าเสียชีวิต และนำร่างมาเตรียมจัดพิธีด้วยตัวเอง
พร้อมกันนี้มีรายงานจาก ครอบครัวของนางชลธิรศน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี คุณยายที่ตายแล้วฟื้น บอกเพิ่มเติมว่าเดินทางมาจากจังหวัดพิษณุโลก เพื่อนำร่างของนางชลธิรศน์ ผู้ป่วยจากโรคมะเร็งในสมองและความจำเสื่อม ที่สิ้นลมหายใจใส่โลงบรรจุร่างเดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อบริจาคร่างกายหลังเสียชีวิตลง
แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลจุฬาฯ ทางโรงพยาบาลได้ปฏิเสธที่จะรับร่างของนางชลธิรศน์ไว้ เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของทางโรงพยาบาล ทำให้ครอบครัวของนางชลธิรศน์ ตัดสินใจนำร่างของนางชลธิรศน์ เดินทางมาที่วัดราษฎร์ประคองธรรม เพื่อทำการฌาปนกิจฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในโครงการบ้านหลังสุดท้ายของทางวัด
ปรากฎว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของวัดตรวจสอบร่างนางชลธิรศน์ ผู้เสียชีวิตนำร่างลงโลงเพื่อเตรียมฌาปนกิจปรากฎว่าเจ้าหน้าที่วัดครอบครัวนางชลธิรศน์และผู้อยู่ในเหตุการณ์ต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าร่างของนางชลธิรศน์ วัย 65 ปี ที่ถูกลงความเห็นว่าเสียชีวิตไปแล้ว กลับลืมตาขึ้นมาและนอนขยับตัวไปมาอยู่ในโลงสร้างความตกตะลึงให้กับเจ้าหน้าที่วัดรวมทั้ง พระกิตติวชิรธาดา เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรม ที่เตรียมประกอบพิธีฌาปนกิจให้กับครอบครัวของนางชลธิรศน์
หลังหายตกตะลึงทางเจ้าหน้าที่วัดได้นำอุปกรณ์มาตรวจสอบสัญญานชีพจรนางชลธิรศน์อีกครั้ง จึงพบว่านางชลธิรศน์ยังมีสัญญานชีพอยู่ จึงได้รีบช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลบางใหญ่ เพื่อทำการรักษาเนื่องจากนางชลธิรศน์อยู่นำร่างใส่บรรจุโลงมานานหลายชั่วโมง
อีกทั้งยังมีข้อมูลด้วยว่า เมื่อ 3 ปีก่อน นางชลธิรศน์ ซึ่งล้มป่วยเป็นผู้ป่วยจิตเวชนอนติดเตียงไม่สามารถลุกเดินได้จากอุบัติเหตุ ก่อนที่ต่อมาจะตรวจพบเนื้องอกในสมอง 4 ก้อนและเข้าทำการผ่าตัดรักษาเอาเนื้องอกออก จนกลายเป็นคนพูดไม่ได้ นอนนิ่งเฉยน้ำลายยืด จนกระทั่งวันเกิดเหตุช่วงเวลา 17:00 น.นางชลธิรศน์นอนนิ่งเหมือนคนไม่หายใจ
ทำให้ทางญาติพี่น้องในครอบครัวพากันมาตรวจสอบดูก็พบว่านางชลธิรศน์ไม่หายใจแล้ว จึงได้แจ้งให้ทางผู้ใหญ่บ้านทำการออกหนังสือรับรองการเสียชีวิตให้ก่อนจะตัดสินใจนำร่างนางชลธิรศน์ใส่โลงเพื่อเดินทางจากจังหวัดพิษณุโลกไปบริจาคร่างกายที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แต่ถูกทางโรงพยาบาลปฏิเสธ จึงนำร่างมาฌาปนกิจที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ก่อนจะมาพบว่านางชลธิรศน์ ยังมีชีวิตอยู่หลังเจ้าที่วัดทำการเปิดฝาโลงออก
อย่างไรก็ตาม แพทย์ที่ตรวจอาการยืนยันว่า ไม่พบสัญญาณหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น อาการหลักคือภาวะน้ำตาลตก ซึ่งได้รับการดูแลเบื้องต้นแล้ว และจะรักษาต่ออย่างใกล้ชิดต่อไป ขณะที่ญาาติได้ประสานนำคุณยายคนดังกล่าวไปดูแลที่บ้านเกิดแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วัดราษฎร์ประคองธรรม



















