ออกกำลังกายกลางแจ้งท่ามกลางฝุ่น PM2.5 ได้คุ้มเสียหรือไม่

ผู้เชี่ยวชาญเตือน การออกกำลังกายกลางแจ้งช่วงฝุ่น PM2.5 สูง เสี่ยงต่อหัวใจและปอด ควรเปลี่ยนมาออกกำลังกายในร่ม เพื่อป้องกันอันตรายจากฝุ่นพิษ
การ ออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูง อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพอย่างที่หลายคนคิด เพราะแทนที่จะได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวร่างกาย กลับอาจทำให้ร่างกายรับสารพิษเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจมากขึ้น จนนำไปสู่ผลกระทบระยะยาวต่อหัวใจและปอด
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่า ขณะออกกำลังกาย ร่างกายจะ หายใจเร็วและลึกขึ้น ทำให้สูด ฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ปอดมากกว่าปกติถึง 10 เท่า ฝุ่นพิษเหล่านี้มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมโครเมตร สามารถเล็ดรอดผ่านขนจมูก ลงสู่ถุงลมปอด และ เข้าสู่กระแสเลือดได้โดยตรง
ผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
- ระบบทางเดินหายใจ: ไอ เจ็บคอ ระคายเคืองตา และจมูก รวมถึงอาการกำเริบของโรคหอบหืดและภูมิแพ้
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด: ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหลอดเลือดตีบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
หน่วยงานสาธารณสุขแนะนำว่า หากค่าฝุ่น PM2.5 เกิน 50 µg/m³ หรือ AQI เกิน 100 ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งโดยเด็ดขาด และเปลี่ยนมาทำกิจกรรมในร่มแทน เช่น ในบ้าน หรือฟิตเนสที่มีระบบกรองอากาศ
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใส่หน้ากาก N95 ขณะออกกำลังกายหนัก เนื่องจากอาจทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลงและหัวใจทำงานหนักขึ้น
หากต้องการรักษาสุขภาพในวันที่ค่าฝุ่นพุ่งสูง ควรเลือก ออกกำลังกายในร่ม เพื่อป้องกันความเสี่ยงจาก ฝุ่นพิษ PM2.5 และยังคงได้ประโยชน์จากการออกกำลังกายอย่างปลอดภัย




















