เปิดรายการยึดทรัพย์สิน คืนวัดพระบาทน้ำพุ ที่ดิน–รถหรู หมื่นล้า

เปิดรายการยึดทรัพย์สินคืนวัดพระบาทน้ำพุ CIB ยึดที่ดิน–รถหรูรวมมูลค่าหมื่นล้านบาท พร้อมติดตามทรัพย์คืนวัดต่อเนื่อง
จากกรณีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการใหญ่ “Operation Endgame: คืนศรัทธา บอกลางมงาย สไตล์ CIB” ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. และผู้บังคับบัญชาระดับสูง ร่วมกับหน่วยงานด้านตรวจสอบการทุจริต ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), สำนักงาน ป.ป.ช., สำนักงาน ป.ป.ท. และ สำนักงาน ป.ป.ง. เพื่อติดตามและทวงคืนทรัพย์สินที่ถูกยักยอกจากวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท
พฤติการณ์ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11เมษายน 2568 ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยา และอาจารย์ประจำภาควิชาสังคมศาสตร์ (สาขาอาชญาวิทยา) คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง พาผู้ร้องเรียนเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลว่า นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ทูตสื่อวิญญาณ หรือ หมอบี” มีพฤติการณ์ทุจริตเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ ที่ประชาสัมพันธ์เปิดขอรับบริจาคเงินผ่านโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊กชื่อเพจ “งมงาย สไตล์หมอบี” โดยอ้างว่าเป็นการร่วมทำบุญ โดยตนเองจะทำหน้าที่เป็นสะพานบุญ นำเงินที่ผู้ร่วมทำบุญโอนเงินเข้ามาในบัญชีที่ตนเองรับบริจาค ไปส่งมอบให้กับ วัดพระบาทน้ำพุ เพื่อที่ พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี จะนำไปใช้ช่วยเหลือ ผู้ป่วยโรคเอดส์ และตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของวัดพระบาทน้ำพุ
โดยนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้เปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี “ใจฟ้าอาทรประชานาถ โดย นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล” ในการรับเงินบริจาคจากประชาชนทั่วไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ถึง ปี 2568 มีประชาชนบริจาคเงินเพื่อทำบุญให้วัดพระบาทน้ำพุ และบริจาคเงินทำบุญอื่นๆ มียอดเงินหมุนเวียนเข้าบัญชี ดังกล่าว จำนวน 300 กว่าล้านบาท
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และ พนักงานสอบสวน ของ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม
จึงได้ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยการสอบพยานบุคคล ตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ จนพบมีมูลว่า นายเสกสันน์ หรือ หมอบี ทรัพย์สืบสกุล ไม่ได้นำเงินที่ได้จากการบริจาคไปมอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ตามที่กล่าวอ้าง โดยมีหลักฐานเชื่อว่านำเงินที่มีผู้บริจาคให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ผ่านบัญชีธนาคารที่ตนเองเปิดมาไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว บางส่วนนำไปมอบให้กับอดีตหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ
จากนั้น กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมและพบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เมื่อรับเงิน ที่นายเสกสันน์ หรือ หมอบี ทรัพย์สืบสกุล นำมามอบให้ในฐานะตัวแทนของวัดพระบาทน้ำพุ กลับไม่นำเงินเข้าสู่ระบบของวัดพระบาทน้ำพุ แต่พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้ทุจริตเอาเงินที่รับมาทั้งหมด ไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว อาทิเช่น
- นำไปให้บุคคลภายนอกกู้ยืม นำไปซื้อทรัพย์สินส่วนตัวโดยใส่ชื่อผู้อื่นถือครองไว้แทน เป็นต้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม จนนำมาสู่การขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับนายเสกสันน์ และอดีตหลวงพ่ออลงกต และได้เปิดปฏิบัติการ “Operation Endgame: ปฏิบัติการคืนศรัทธา บอกลางมงาย สไตล์ CIB” ไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568พร้อมทั้งตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเพื่อหาพยานหลักฐานประกอบคดีจำนวน 17 จุด ทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดลพบุรีโดยจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับ จำนวน 2 ราย คือ
1.พระราชวิสุทธิประชานาถอลงกต พูลมุข (อลงกต ติกขปญโญ) หรือนายอลงกต พูลมุข อายุ 65 ปี กระทำความผิดฐาน“เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฟอกเงินและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน”
2.นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี อายุ 43 ปี กระทำความผิดฐาน “ผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฟอกเงินและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
พร้อมตรวจยึดของกลางที่สำคัญ ดังนี้
1. ยานพาหนะรถยนต์ จำนวน 3 คัน รวมมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท
2. เงินสด รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,562,350 บาท
3. กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 3 ใบ รวมมูลค่าประมาณ 4 แสนบาท
4. เช็คนำฝาก จำนวน 21 ใบ มูลค่า 52 ล้าน
5. โฉนดที่ดินและเอกสารสิทธิ จำนวนทั้งสิ้น 23 ฉบับ พื้นที่ 323 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา รวมมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท
และหลังจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้แล้วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้บูรณาการร่วมกัน เพื่อสืบสวนติดตามทรัพย์สิน ที่บุคคลอื่นมีชื่อถือครองไว้แทนวัดพระบาทน้ำพุ ให้นำกลับมาคืนสู่วัดพระบาทน้ำพุ จนเป็นที่มาของ การได้กลับคืนมาซึ่งโฉนดที่ดิน เอกสารถือครองที่ดิน ยานพาหนะจากผู้ถือครองแทน ดังนี้
1. โฉนดที่ดิน (น.ส.4 จ.) จำนวน 411 ฉบับรวมพื้นที่ 2,258 ไร่ 3 งาน 28.5 ตารางวา
2. หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) จำนวน 389 แปลง รวมพื้นที่ 4,957 ไร่ 2 งาน
74 ตารางวา
3. ยานพาหนะรถยนต์ และรถบรรทุก ร่วม 60 คัน
รวมที่ดินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางติดตามเพื่อนำมาคืนสู่วัดพระบาทน้ำพุ ได้นั้น เนื้อที่ดิน รวมประมาณ 7,200 ไร่เศษ เมื่อตรวจสอบราคาประเมินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและยานพาหนะ นั้น มูลค่ารวมประมาณกว่าหมื่นล้านบาท
การดำเนินการในครั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หาใช่เพียงมุ่งแต่จับกุมผู้กระทำผิดเท่านั้น แต่ยังคงช่วยเหลือติดตามทรัพย์ จากผู้ที่แอบแฝงถือครองไว้ รวมทั้งหาผลประโยชน์ที่มิชอบจากวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อนำทรัพย์สินที่ซื้อด้วยเงินบริจาคของประชาชน ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคให้กับวัด นำกลับมาสู่วัด เพื่อบริหารจัดการให้ถูกต้องตามระเบียบ และกฎหมายต่อไป อีกทั้งยังคงมุ่งสืบสวนขยายผลหาผู้กระทำความผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการหาผลประโยชน์จากวัดพระบาทน้ำพุ ต่อไปอีกด้วย สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองใช้สิทธิขอให้การปฏิเสธ

หมีสีน้ำตาลฮอกไกโด “ฮิกุมะ” นักล่าอันดับหนึ่งแห่งญี่ปุ่น

ใจหาย "น้องซอส" เบอร์ 13 กองหน้า ทีมหมอนทอง เตรียมย้ายโรงเรียน

ราคาทองวันนี้ 13 พฤศจิกายน 2568 ราคาทองวันนี้ปรับตัวอีกครั้งที่ 8

ออกกำลังกายกลางแจ้งท่ามกลางฝุ่น PM2.5 ได้คุ้มเสียหรือไม่
















