ครม.เตรียมเคาะงบ “เงินเยียวยาน้ำท่วมรอบใหม่” ช่วย 17 จังหวัด

คณะรัฐมนตรี (ครม.) เตรียมอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อ จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมรอบใหม่ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน 30, 60 และ 90 วัน ครอบคลุมพื้นที่ 17 จังหวัด รวมกว่า 1.2 แสนครัวเรือน

 

นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบภัย โดยเน้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

เร่งรับมือน้ำท่วม – เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา

ด้านกรมชลประทาน ได้เพิ่มการระบายน้ำจาก เขื่อนเจ้าพระยา เป็น 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งลดปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยมีการเตรียมแผนรองรับในกรณีที่จำเป็นต้องเพิ่มการระบายสูงสุดถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ที่จังหวัดอ่างทอง นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผน เสริมคันกั้นน้ำ และเตรียมแผนอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เพื่อรับมือสถานการณ์ที่อาจรุนแรงขึ้น

ขณะเดียวกัน นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการแบบเชิงรุก โดยใช้ เทคโนโลยีระบายน้ำ และติดตั้ง เครื่องผลักดันน้ำ ในจุดยุทธศาสตร์ เพื่อเร่งระบายน้ำลงทะเลโดยเร็วที่สุด

สาธารณสุขจัดหน่วยแพทย์-ทีมจิตวิทยาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้ทุกเขตสุขภาพดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด โดยออกมาตรการ เยียวยาด้านสาธารณสุข ดังนี้

1. จัด หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ในพื้นที่ที่น้ำยังท่วมขัง

2. ให้บริการสุขภาพและควบคุมโรคในพื้นที่ประสบภัย

3. ฟื้นฟู โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 22 แห่งที่ได้รับผลกระทบ

4. ส่ง ทีม MCATT (ทีมสุขภาพจิต) ดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ประสบภาวะเครียด

5. เตรียมพร้อม ทีมปฏิบัติการฉุกเฉิน ในระดับเขตสุขภาพ 2–4 เพื่อสนับสนุนข้ามจังหวัด หากสถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น

 

รัฐบาลยืนยันว่า การจ่าย เงินเยียวยาน้ำท่วมรอบใหม่ จะดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยได้รับการช่วยเหลือครบทุกครัวเรือน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานส่วนกลางและท้องถิ่นให้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่ยังคงต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศ.