ตำรวจสอบสวนกลางทลายเครือข่ายยาเสพติด "โจ้ โหนทรายทอง"

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 7 จุด ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและชลบุรี ทลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ "โจ้ โหนทรายทอง"
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน, พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ และคณะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นำโดย พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. สนธิกำลังเปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ “โจ้ โหนทรายทอง”
จากการสืบสวนพบว่า เครือข่ายดังกล่าวเชื่อมโยงกับการจับกุม นายณัฐชา (หรือคิง) อายุ 20 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนักกว่า 6.9 กิโลกรัม ภายในห้องเช่า ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต ก่อนเจ้าหน้าที่จะขยายผลตรวจยึด ยาบ้าเพิ่มอีก 200,000 เม็ด จากขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง
การสืบสวนต่อเนื่องนำไปสู่การขอหมายจับผู้เกี่ยวข้องรวม 5 ราย ซึ่งมี นายภควัต หรือโจ้ โหนทรายทอง และแฟนสาวเป็นหัวหน้าขบวนการ โดยได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นพร้อมกัน 7 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ จ.ชลบุรี 2 จุด และจ.ภูเก็ต 5 จุด
ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ได้แก่
- นายภควัต หรือโจ้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 934/2568 ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1, สมคบกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และสมคบกันฟอกเงิน (ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ)
- น.ส.อรจิรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 938/2568 ในข้อหา สมคบกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และสมคบกันฟอกเงิน จับกุมได้ที่หน้าอพาร์ตเมนต์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
- นายภูวนาถ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 935/2568 ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 และสมคบกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุมได้ที่บริเวณถนนหน้าคอนโด อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
- นายเจษฎา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 936/2568 ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 และสมคบกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด (อยู่ในเรือนจำ)
เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดพยานหลักฐานหลายรายการจากทุกจุดตรวจค้น ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ เพื่อกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่นี้ให้หมดสิ้นจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและภาคใต้
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จะรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



















