อาการเจ็บคอแบบไหนที่เป็นสัญญาณว่ากำลังเสี่ยงโรคมะเร็ง

อาการเจ็บคอที่ไม่ใช่แค่หวัด รีบเช็คอาการด่วน เจ็บคอเกินกี่วันที่ร่างกายกำลังส่งสัญญาณว่าเสี่ยงโรคมะเร็ง
หลายคนมักมองว่า “อาการเจ็บคอ” เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยจากอากาศเปลี่ยนหรือไข้หวัดธรรมดา แต่ในความเป็นจริง อาการนี้อาจเป็นสัญญาณของ โรคร้ายแรงอย่างมะเร็งศีรษะและลำคอ ได้ โดยเฉพาะเมื่อเจ็บคอเรื้อรังติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์
อาการเจ็บคอถือเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงอากาศแปรปรวนหรืออุณหภูมิลดลง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบหรือการติดเชื้อไวรัสทั่วไป แต่หากอาการไม่ทุเลาแม้รักษาด้วยยา หรือกลับแย่ลงเรื่อย ๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีเซลล์มะเร็งกำลังเติบโตอยู่ภายใน
- ทำไม “เจ็บคอเรื้อรัง” ถึงอาจบ่งบอกถึงมะเร็ง?
นายแพทย์จิริ คูเบส (Jiri Kubes) ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของศูนย์บำบัดโปรตอน (Proton Therapy Center) ประเทศอังกฤษ อธิบายว่า มะเร็งศีรษะและลำคอเป็นมะเร็งที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกจึงสำคัญอย่างยิ่ง หากเจ็บคอต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด
อาการเจ็บคอที่ไม่หายขาดมักถูกมองข้าม เพราะคล้ายกับอาการทั่วไป เช่น แผลในปาก เหงือกบวม ปวดฟัน หรือมีฝ้าขาวในช่องปาก ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจผิดและปล่อยไว้จนโรคลุกลาม
เซลล์มะเร็งในบริเวณศีรษะและลำคอ (เช่น คอหอย กล่องเสียง ทอนซิล ลิ้น เหงือก และเพดานปาก) มักเริ่มจากเยื่อบุ ซึ่งมีเส้นประสาทรับความรู้สึกจำนวนมาก เมื่อมะเร็งลุกลามจะก่อให้เกิดอาการเจ็บคอจากหลายสาเหตุ เช่น
- เซลล์มะเร็งรุกล้ำเข้าเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดการอักเสบและบวม
- มีการกดทับเส้นประสาทบริเวณคอหอย กล่องเสียง หรือหู ทำให้รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในคอ
- เนื้องอกในทอนซิลหรือลิ้นไก่ลามไปถึงหูชั้นกลาง ทำให้ปวดหูโดยไม่มีโรคในหูจริง ๆ
อาการเจ็บคอจากมะเร็งมักไม่ตอบสนองต่อยาแก้อักเสบหรือยาปฏิชีวนะ และจะคงอยู่เกิน 2 สัปดาห์ ต่างจากอาการอักเสบทั่วไปที่มักดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
มะเร็งชนิดใดที่มักทำให้ “เจ็บคอเรื้อรัง”
- มะเร็งหลังโพรงจมูก : เจ็บคอ ปวดลามขึ้นหู คัดจมูกข้างเดียว มีเลือดกำเดา หรือหูอื้อ
- มะเร็งทอนซิล : กลืนลำบาก เจ็บคอข้างเดียว มีต่อมน้ำเหลืองโต
- มะเร็งกล่องเสียง / คอหอยส่วนล่าง : เสียงแหบ กลืนเจ็บ พูดลำบาก น้ำหนักลด
- มะเร็งโคนลิ้น : เจ็บลึกในคอ กลืนลำบาก มีกลิ่นปาก หรือแผลในปากไม่หาย
เมื่อใดควรรีบตรวจคัดกรองมะเร็ง
นายแพทย์คูเบสย้ำว่า แม้อาการเจ็บคอส่วนใหญ่ไม่อันตราย แต่หากยืดเยื้อหรือมีอาการร่วมต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เฉพาะทางหู คอ จมูก หรือแพทย์ด้านมะเร็งทันที
- ปวดลามไปถึงหู
- กลืนลำบาก รู้สึกติดคอ
- ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม
- เสียงแหบต่อเนื่อง
- น้ำหนักลด อ่อนเพลีย โดยไม่ทราบสาเหตุ
กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังเป็นพิเศษ
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็งศีรษะและลำคอ ได้แก่
- ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- ผู้ติดเชื้อไวรัส HPV โดยเฉพาะผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางปากแบบไม่ป้องกัน
- ผู้มีอายุเกิน 50 ปี
- ผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมมีสารเคมี ฝุ่นไม้ หรือแร่ใยหิน
- ผู้มีสุขอนามัยในช่องปากไม่ดี
นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า การบริโภคอาหารหมักดองเค็ม การกินหมาก หรือการได้รับรังสี ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกลุ่มนี้เช่นกัน
ตรวจพบเร็ว = เพิ่มโอกาสรอดชีวิต
เช่นเดียวกับมะเร็งชนิดอื่น ๆ การตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นมีความสำคัญอย่างมาก หากตรวจเจอในระยะต้น อัตราการรอดชีวิต 5 ปีอาจสูงถึง 60% แต่หากพบในระยะลุกลามจะลดลงเหลือต่ำกว่า 20%
ตัวอย่างเช่น มะเร็งกล่องเสียงมีอัตรารอดชีวิต 5 ปีในระยะที่ 1 สูงถึง 62% แต่ลดลงเหลือเพียง 18% เมื่อเข้าสู่ระยะที่ 4
ดังนั้น หากเจ็บคอเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่าปล่อยผ่าน ควรเข้ารับการตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด เพราะ “การตรวจเร็ว อาจช่วยชีวิตได้จริง”
ข้อมูลจาก soha

คยองจู เกาหลีใต้ เปิดสมบัติ อาณาจักรชิลลา แหล่งมรดกโลก

เปิดสถิติ 10 โรคฮิตผู้ป่วยนอก - ผู้ป่วยใน สิทธิบัตรทอง ปี 2567

"เจนนี่ รัชนก" โพสต์แรงถึง นักข่าวดัง หลังพูดถึงเรื่องครอบครัว

เปิดตำนาน "เฮยเฉิง" ซากเมืองโบราณแห่งเส้นทางสายไหมในมองโกเลียใน
















