เตือนภัยศัตรูพืช "เพลี้ยแป้งในมะละกอ" อากาศชื้น ฝนตกต้องระวัง

เตือนภัยเกษตรกรช่วงอากาศชื้นฝนตก ระวัง "เพลี้ยแป้งระบาดในมะละกอ" ดูดกินน้ำเลี้ยงบริเวณยอดอ่อน ใบ ดอก และผล แนะวิธีป้องกัน
วันที่ 17 ต.ค. 2568 สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ได้ออกมาเตือนเฝ้าระวัง เพลี้ยแป้งในมะละกอ โดยสภาพอากาศในช่วงนี้มีฝนตก และฝนตกหนักบางพื้นที่ เตือนผู้ปลูกมะละกอในระยะให้ผลผลิตรับมือ เพลี้ยแป้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัย ดูดกินน้ำเลี้ยงบริเวณยอดอ่อน ใบ ดอก และผล
โดยมีมดช่วยพาไปยังส่วนต่างๆ ของต้นพืช การทำลายที่ดอก และผลอ่อน จะทำให้ดอกและผลหลุดร่วง หรือผลบิดเบี้ยว การทำลายที่ยอดอ่อน ใบอ่อน จะทำให้ใบ และยอดหงิกงอ นอกจากนี้ มูลหวานที่เพลี้ยแป้งขับออกมาจะทำให้เกิดราดำที่ผิวผล ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำ
แนวทางการป้องกันเพลี้ยแป้งในมะละกอ
1. กำจัดพืช และวัชพืชที่เป็นแหล่งอาศัยของเพลี้ยแป้ง
2. กำจัดมด และแหล่งอาศัยของมด ที่เป็นพาหะของเพลี้ยแป้ง
3. ก่อนการย้ายกล้ามะละกอลงหลุมปลูก ตรวจดูว่าไม่มีเพลี้ยแป้งติดมากับต้นกล้า หากพบควรนำไปทำลายนอกแปลง
4. หลังปลูกหมั่นสำรวจแปลง โดยเฉพาะแนวขอบแปลงทิศเหนือลม หรือขอบแปลงที่ติดกับแปลงอื่น ถ้าพบการระบาด ตัดส่วนที่พบไปทำลาย และพ่นสารที่แนะนำบริเวณจุดที่พบเพลี้ยแป้งและรัศมีโดยรอบ เพื่อป้องกันการกระจายตัวของเพลี้ยแป้ง
กรณีที่จำเป็นต้องใช้สารเคมี เลือกใช้สารที่มีประสิทธิภาพชนิดใดชนิดหนึ่ง อาทิ
- ไทอะมีทอกแซม 25% WG อัตรา 4 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
- อิมิดาโคลพริด 70% WG อัตรา 4 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
- ไดโนทีฟูแรน 10% WP อัตรา 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
- โคลไทอะนิดิน 16% SG อัตรา 15 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
- ะซีทามิพริด 20%SP อัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
- ไพมีโทรซีน 50% WG อัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
ควรสลับกลุ่มสารทุกการพ่น 2-3 ครั้ง ป้องกันการดื้อยา และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันกำจัด
ขอบคุณ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร