เผยตำนาน หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พระเกจิศักดิ์สิทธิ์แดนใต้

เปิดตำนาน หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หรือสมเด็จเจ้าพะโคะ พระเกจิผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนใต้ เจ้าของปาฏิหาริย์น้ำทะเลกลายเป็นน้ำจืด และพระเครื่องแคล้วคลาดปลอดภัย
หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หรือ สมเด็จเจ้าพะโคะ เป็นพระมหาเถระที่คนไทยให้ความเคารพศรัทธาอย่างสูง โดยเฉพาะในด้าน พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย และปาฏิหาริย์อันเลื่องชื่อที่เล่าขานกันมาหลายร้อยปี
ท่านมีนามเดิมว่า “ปู” ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หรือ สมเด็จเจ้าพะโคะ โดยเชื่อกันว่าท่านเกิดในสมัยกรุงศรีอยุธยา ช่วงราวปี พ.ศ. 2125 - 2225 มีอายุยืนถึง 100 ปี บ้านเกิดอยู่ที่บ้านสวนจันทร์ ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
หลวงปู่ทวดเป็น เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานอัฐิของท่าน และเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ
หนึ่งใน ตำนานหลวงปู่ทวด ที่โด่งดังที่สุด คือ “เหยียบน้ำทะเลจืด” เล่าว่า ระหว่างเดินทางโดยเรือสำเภาไปกรุงศรีอยุธยา น้ำจืดบนเรือหมด ลูกเรือจึงคิดจะนำท่านไปปล่อยกลางทะเล แต่ด้วยเมตตา หลวงปู่ทวดได้จุ่มเท้าลงในน้ำทะเล แล้วน้ำบริเวณนั้นกลับกลายเป็นน้ำจืด ทำให้ลูกเรือรอดชีวิตและเกิดความศรัทธา
อีกหนึ่งปาฏิหาริย์คือ “ดวงแก้ววิเศษ” เมื่อตอนท่านยังเป็นทารก มีงูจงอางมาพันเปลและคายดวงแก้วเรืองแสงไว้บนหน้าอกของท่าน เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งบารมีและความศักดิ์สิทธิ์
ปัจจุบัน พระเครื่องหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ผู้ศรัทธา เพราะเชื่อกันว่า “แขวนหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหง” เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและเสริมสิริมงคลด้านความปลอดภัยแก่ผู้บูชาอย่างแท้จริง.