ปลูก "พริกไทย" รายได้มาแรง ราคาต่อกิโลกรัมพุ่งต่อเนื่อง

"พริกไทย" และ "พริกไทยดำ" ราคาพุ่งต่อเนื่อง เกษตรกรภาคตะวันออกสร้างรายได้สูง ผลผลิตเพิ่ม ดูแลง่าย คุ้มค่าลงทุนแน่นอน
พริกไทยมาแรง สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผยราคาพริกไทยดำในภาคตะวันออกพุ่งต่อเนื่อง เกษตรกรขายได้สูงถึง 270 บาท/กิโลกรัม พร้อมแนะเทคนิคดูแลผลผลิตให้สูงสุด ปี 2569 ผลผลิตคาดเพิ่ม 3.82% ชี้โอกาสสร้างรายได้จากพืชเศรษฐกิจคุณภาพสูง ทั้งในและต่างประเทศ
โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยข้อมูลจากการสำรวจสถานการณ์พริกไทยของประเทศ ซึ่งปลูกมากที่สุดในภาคตะวันออก คือ จังหวัดจันทบุรี ตราด ระยอง พบว่า ราคาที่เกษตรกรขายได้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาเฉลี่ยพริกไทยดำ จังหวัดจันทบุรี ในปี 2568 (เดือนมกราคม - กันยายน) อยู่ที่ 270.36 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ยปี 2567 ที่ 250 บาท/กิโลกรัม และราคาเฉลี่ยปี 2566 ที่ 227.10 บาท/กิโลกรัม
คุณธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ให้เหตุผลว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาพริกไทยเพิ่มสูงขึ้นมาจากการที่พริกไทยของไทยมีคุณภาพดี ได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ สวนทางปริมาณผลผลิตลดลง
โดยในปี 2567 ตลาดโลกยังมีความต้องการสูง มีการบริโภคในประเทศ 6,321 ตัน/ปี มีปริมาณนำเข้า 6,938 ตัน/ปี มูลค่าการนำเข้า 1,596 ล้านบาท และมีปริมาณส่งออก 878 ตัน/ปี มูลค่าส่งออก 283 ล้านบาท
แต่แม้จะมีราคาที่ดี แต่คาดว่าจะมีเนื้อปลูกพริกไทยรวมทั้งประเทศมีเพียง 519 ไร่ ลดลงจากปี 2568 ที่มีจำนวน 549 ไร่ (ลดลง 30 ไร่ หรือร้อยละ 5.48) และเนื้อที่ให้ผลรวม 514 ไร่ ลดลงจากปี 2568 ที่มีจำนวน 548 ไร่ (ลดลง 34 ไร่ หรือร้อยละ 6.20)
สาเหตุหลักมาจากการที่เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกไม้ผลอื่นโดยเฉพาะทุเรียน เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า รวมถึงเกษตรกรส่วนใหญ่ที่ปลูกพริกไทยแซมในสวนทุเรียน เมื่อทุเรียนโตขึ้นและต้องการพื้นที่ดูแลเพิ่มขึ้น จึงต้องรื้อค้างพริกไทยออก
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตรวมในปี 2569 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 326 ตัน จากปี 2568 ที่มีจำนวน 314 ตัน (เพิ่มขึ้น 12 ตัน หรือร้อยละ 3.82) เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยต่อการออกดอกและติดผล
ประกอบกับเกษตรกรมีการดูแลรักษาต้นพริกไทยเป็นอย่างดี ไม่มีเชื้อราและศัตรูพืชมารบกวน ทำให้ผลผลิตต่อเนื้อที่เก็บเกี่ยวสูงถึง 634 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2568 ที่ 573 กิโลกรัม/ไร่ (เพิ่มขึ้น 61 กิโลกรัม/ไร่ หรือร้อยละ 10.65)
ทั้งนี้ เกษตรกรต้องใช้ระยะเวลาเพาะปลูกพริกไทย 3 ปี จึงจะเริ่มให้ผลผลิต และให้ผลผลิตได้เพียงปีละครั้ง แต่ต้องเก็บเกี่ยวทีละหลายรอบจนหมดต้น เนื่องจากช่อพริกไทยบนต้นจะไม่สุกพร้อมกันทั้งหมด จึงต้องทยอยเก็บประมาณ 3-4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 7-10 วัน
โดยผลผลิตพริกไทยในปี 2569 จะเริ่มออกสู่ตลาดในเดือนมกราคม-เมษายน 2569 และจะออกมากที่สุดในเดือนมีนาคม 2569 ที่ประมาณร้อยละ 49.13

เปิดที่มาชื่อ พังข้าวต้ม ความหมายอบอุ่น พร้อมอัปเดตอาการล่าสุด

เปิดพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังน้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ประจำวันที่ 26 ก.ย. 2568

ฝรั่งไม่จ่ายค่าข้าว โวยวายจนเรื่องถึงตร. แต่ชาวเน็ตโฟกัสผิดจุด

เตือนภัย พื้นที่สีแดง 19 จ. ฝนถล่มหนัก จับตาน้ำหลากดินถล่ม
